xs
xsm
sm
md
lg

กองปราบฯ เมิน “ทนายสุกิจ” ฟ้อง ยันทำตามยุทธวิธี ป.วิอาญาให้จับตามสถานการณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รอง ผบก.กองปราบฯ ไม่หวั่นโดน “ทนายสุกิจ” ฟ้องจับกดหัวลงพื้นบน สน.พหลโยธิน ขณะเข้าจับคดีรุกป่า-ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน ยันไม่เกินกว่าเหตุ ทำตามยุทธวิธี ชี้กฎหมาย ป.วิอาญา “บุคคลใดที่ขัดขวางหรือหลบหนีผู้จับกุมใช้ยุทธวิธีการจับกุมตามความเหมาะสมแต่ละสถานการณ์"



วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความชื่อดัง ในคดีบุกรุกป่าสงวนที่ จ.ตาก กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า วันจับกุมได้รับภารกิจให้ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งก่อนที่จะมีการเข้าทำการจับกุมตัวนายสุกิจนั้นก็ได้มีการประชุมวางแผนเตรียมการกันมาเป็นอย่างดี เพราะทราบดีอยู่แล้วว่าผู้ต้องหานั้นเป็นทนายความมีความรู้ด้านกฎหมายเป็นอย่างดี ตอนแรกต้องการจับกุมตัวแบบละมุนละม่อม เพราะรู้ดีว่าการจับกุมตัวทนายความรายนี้ค่อนข้างเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องกลับ

“ขอยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำไปนั้นเป็นไปตามยุทธวิธี ถูกต้องตามขั้นตอน ไม่มีการใช้อาวุธหรือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะปฏิบัติตามยุทธวิธีตามกฎหมาย ป.วิอาญา ที่ว่าด้วยบุคคลใดที่ขัดขวางหรือหลบหนีผู้จับกุมสามารถใช้ยุทธวิธีการจับกุมตามความเหมาะสมตามแต่สถานการณ์” พ.ต.อ.จรูญเกียรติกล่าว

รอง ผบก.ป.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ก่อนการจับกุมก็ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ได้รับทราบ พร้อมทั้งเชิญตัวไปห้องสอบสวนเพื่อลงบันทึกจับกุมและบันทึกประจำวัน อันที่จริงหลังจากที่มีการแสดงหมายจับและอ่านข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่สามารถใส่กุญแจมือผู้ต้องหาได้เลยเพราะถือว่าอยู่ในขั้นตอนของการจับกุมตัวแล้ว แต่เรายังให้เกียรติไม่ใส่กุญแจมือให้เลยในเวลานั้น แต่ นายสุกิจกลับไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร มีการสะบัดมือ ไม่ยอมเข้าไปในห้องสอบสวน จึงทำให้มีการจับกดลงพื้นเพื่อที่ใส่กุญแจมือ

พ.ต.อ.จรูญเกียรติกล่าวต่อว่า นายสุกิจนั้นมีความรู้ด้านกฎหมายก็ควรใช้ให้เป็นประโยชน์ และรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อถูกจับ อีกทั้งคดีดังกล่าวนั้นมีอัตราโทษสูงจำคุกเกิน 20 ปี นายสุกิจจึงถือเป็นผู้ต้องหาสำคัญ ส่วนกรณีที่ทางสภาทนายความออกมาบอกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการไม่ให้เกียรติวิชาชีพทนายความ ในส่วนนี้อยากชี้แจงว่าพวกคุณเข้าใจกฎหมายทุกอย่าง อย่าพยายามสร้างบรรทัดฐานไปในทางที่ไม่ดี ทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกฎหมาย

“เมื่อผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือก็ต้องดำเนินการตามยุทธวิธีการตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นใครใหญ่แค่ไหนก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ใช่ว่าใหญ่แล้วต้องให้เกียรติ ไม่อย่างนั้นสังคมจะเกิดความสับสน ต้องทำความเข้าใจในส่วนนี้ด้วย ส่วนกรณีที่มีกระแสว่านายสุกิจจะฟ้องกลับนั้น ฟ้องได้เลยทุกข้อหา เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงกระทำได้อยู่แล้ว และผมเองก็ไม่ได้เป็นกังวลเพราะทำตามหน้าที่และขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาโกรธเคืองกันมาก่อนแต่อย่างใด” รอง ผบก.ป.กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น