ตำรวจคุมตัวไอ้โจฆาตกรฆ่ารัดคอสาวสกลนคร ทิ้งศพเปลือยกายในหนองน้ำริมถนนสาย 345 ปทุมธานี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังโมโหเหยื่อปฏิเสธร่วมเพศวิตถาร
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่ตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี, พ.ต.ท.วิศิษฎ์ มะอักษร รอง ผกก.สส.(สืบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี พร้อมกำลังชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี และ สภ.เมืองปทุมธานี ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัว นายพีระพัฒน์ (โจ) คำลุน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 4 ต.โพนงาม อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 135/2561 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2561 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะโตโยต้า รีโว่ สีเทา ทะเบียน ผฉ 172 อุบลราชธานี
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2561 ประมาณ 10.10 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ปทุมธานี ได้รับแจ้งพลเมืองดี พบผ้าห่มสีแดง บริเวณบ่อน้ำริมถนนสาย 345 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตรวจสอบภายในห่อผ้าพบศพเพศหญิง ไม่สวมเสื้อผ้า ลักษณะคว่ำหน้า เจ้าหน้าที่ได้เร่งรัดตรวจสอบตัวบุคคล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส. จำได้ว่า เคยจับกุมผู้ตายในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ประกอบกับการสืบสวนจากพยานหลักฐานที่ตกในที่เกิดเหตุ สืบสวนจนทราบว่าผู้ตาย คือ น.ส.มะลิวรรณ อ่อนหนู อายุประมาณ 24 ปี พักอยู่ในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี จึงได้ติดต่อกับญาติและกลุ่มเพื่อนสนิท ให้ข้อมูลว่า “ก่อนที่จะพบศพ ผู้ตายออกไปเที่ยวกลางคืน” กับเพื่อน 3 คน ในระหว่างนั้นมีผู้ชายเข้ามาพูดคุยด้วย เวลาต่อมาผู้ตายได้ออกไปกับชายดังกล่าว โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จุดสังเกตหลังกระบะมีตู้ลำโพงพร้อมผ้าใบคลุม จากการตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดตามคำให้การพยานบุคคล จุดเริ่มต้นจากหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี จนมาสุดปลายทางที่บริเวณพบศพ เพื่อพิสูจน์ทราบเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการกระทำความผิด พบข้อมูลรถที่ก่อเหตุหมายเลขทะเบียน ผฉ 172 อุบลราชธานี ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่การออกหมายจับ นายพีระพัฒน์ หรือ โจ คำลุน ตามหมายจับที่ 135/2561 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2561 โดยกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และติดตามจับกุมได้ที่บริเวณห้องพักเลขที่ 40 ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี พร้อมรถยนต์กระบะคันหมายเลขทะเบียน ผฉ 172 อุบลราชธานี คันที่ใช้ก่อเหตุ สอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า “สาเหตุเกิดจากผู้ตายปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์” ทำให้ผู้ต้องหาโกรธและลงมือทำร้ายร่างกาย โดยใช้ผ้ารัดคอผู้ตายจนเสียชีวิต และกลัวความผิดจึงได้นำศพห่อด้วยผ้าห่มและใส่รถคันดังกล่าวไปทิ้งที่บริเวณคูน้ำริมถนน ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี และหลบหนีไปจนในวันที่ 17 มิถุนายน 2561 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน เข้าทำการจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี
คดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ สร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ประชุมวางแผนการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ ซึ่งใช้เวลาในการสืบสวนและพิสูจน์จนทราบตัวผู้เสียชีวิต และผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ภายในเวลาอันรวดเร็ว
“หมายเหตุเป็นใบแถลงข่าวจากภาค 1 เป็นที่น่าสังเกตไม่มีการพูดถึงคดีที่ผู้ตายมายืนขายบริการอยู่ริมทางรถไฟย่านรังสิต เป็นที่ทราบกันดีว่าตรงนี้ เป็นแหล่งค้าประเวณี และผู้ต้องหารับสารภาพกับทางชุดสืบสวนเองว่าได้ไปซื้อบริการแถวนั้น หรือเรียกกันว่า (สาวเตร่) แต่ตำรวจไม่พูดถึง เนื่องจากเกรงว่าทาง สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จะเดือดร้อนเพราะปล่อยปละละเลยเรื่องการค้าประเวณี
