MGR Online - ศาลฎีกาคดีทุจริตเลื่อนฟังคำสั่งรับฟ้องคดี “วัฒนา เมืองสุข” ทุจริตบ้านเอื้ออาทรหรือไม่ ไป 17 ส.ค. เหตุให้อัยการส่งหลักฐานแจ้งนัดจำเลยร่วมแล้ว แต่ไม่มาพบอัยการเพื่อส่งตัวฟ้อง
วันนี้ (18 มิ.ย.) องค์คณะผู้พิพากษาคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม. 42/2561 มีคำสั่งเลื่อนนัดฟังคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ คดีที่ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “นายวัฒนา หรือ ไก่ เมืองสุข” อายุ 60 ปี อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยุครัฐบาลทักษิณ 2 และแกนนำพรรคเพื่อไทย, นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการปี 48 - 49, นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีต ผอ.ฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย, นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่, น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง, น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด, น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ, บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด โดย นายปกรณ์ อัศวีนารักษ์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน และ บริษัท ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ไทย เฉน หยู อินเตอร์เนชั่นแนล คอนสตรัคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) โดย นางพิมพ์วรา รัชต์ธนโรจน์ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน เป็นจำเลยที่ 1 - 9
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กำหนดนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรหรือไม่ หลังจากที่เลื่อนมา 1 ครั้ง แต่วันนี้ศาลได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการยื่นฟ้องของอัยการเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ได้ยื่นฟ้องแบบไม่มีตัวจำเลยบางคน ซึ่งในส่วนนั้นก็มี น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง และ น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว ที่อัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยที่ 5 - 6 แบบไม่มีตัว โดยระบุให้ศาลทราบว่าทั้งสองทราบนัดฟ้องโดยชอบแล้วไม่มาพบอัยการ แต่ศาลเห็นว่าในสำนวนยังไม่ปรากฏหลักฐานการแจ้งนัดในส่วนของจำเลยที่ 5 - 6 นั้น จึงให้อัยการนำหลักฐานการแจ้งนัดให้จำเลยทราบมาแสดงด้วย ดังนั้น ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับ หรือไม่รับฟ้องคดีนี้ อีกครั้งในวันที่ 17 ส.ค. นี้ เวลา 09.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ นายวัฒนา อดีต รมว.พม., อดีตบอร์ด กคช. และกลุ่มเอกชน ถูกยื่นฟ้องในความผิดเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.148, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ม.157, ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ โดยเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ม.6, 11 และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา ม.83, 86, 91
โดยอัยการสูงสุด มอบอำนาจให้ อัยการคดีปราบปรามทุจริต 2 ยื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่ นายวัฒนา จำเลยที่ 1 ได้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 5 ล้านบาท และ นายพรพรหม จำเลยที่ 3 ได้ประกันไป 3 ล้านบาท ซึ่งศาลก็ได้พร้อมกำหนดเงื่อนไขด้วย สั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
ส่วน บจก.เพรซิเดนท์ฯ จำเลยที่ 8 และ บจก.ซิลเวอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำเลยที่ 9 นั้น เป็นบริษัทนิติบุคคลจึงไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกัน
สำหรับ นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จำเลยที่ 2, น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 5 , น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด จำเลยที่ 6, น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ จำเลยที่ 7 นั้น ในวันฟ้องไม่ได้มาพบอัยการเพื่อมาศาล จึงต้องรอมาศาลและยื่นประกันภายหลัง
ส่วน นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ จำเลยที่ 4 นั้น ตัวอยู่ในเรือนจำรับโทษคดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ หากองค์คณะผู้พิพากษามีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาพิพากษาเมื่อใดแล้ว ตามขั้นตอนก็จะนัดพิจารณาคดีครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลยทั้ง 9 ราย โดยจำเลยทั้งหมดจะปรากฏตัวหน้าองค์คณะครั้งแรก ส่วน นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง ซึ่งตัวอยู่ในเรือนจำรับโทษคดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี ก็ต้องถูกเบิกมาศาลด้วย