MGR online - “รังสิมันต์ โรม” ขึ้นศาลนัดตรวจหลักฐานคดีชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้ง ศาลนัดสืบพยานครั้งแรก 23 เมษายนปีหน้า ขณะที่เจ้าตัวยันแม้ศาลมีคำสั่งห้ามชุมนุม แต่ยังเดินหน้าอ้างเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ พร้อมค้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ภาคประชาชนไม่มีส่วนร่วม
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีหมายเลขดำที่ อ.1197/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และร่วมกันมั่วสุมชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน ในที่สาธารณะ ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 กรณีจัดชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้งและต่อต้านรัฐบาล คสช. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2561 (RDN50) โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
โดยวันนี้อัยการโจทก์, นายรังสิมันต์ จำเลยและทนายความเดินทางมาศาล เมื่อถึงเวลานัดอัยการโจทก์ได้ยื่นพยานเอกสาร 39 แผ่น พร้อมซีดีจำนวน 4 แผ่น และแถลงขอนำพยานโจทก์เข้าสืบจำนวน 13 ปาก ซึ่งประกอบด้วยพนักงานสอบสวนที่ทำการสอบสวนจับกุม และพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องในคดี ส่วนทนายจำเลยแถลงขอพยานเข้าสืบจำนวน 3 ปาก ประกอบด้วย ตัวจำเลย และพยานนักวิชาการอีก 2 ปาก พร้อมขอให้ศาลอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลย เนื่องจากจำเลยติดภารกิจทางการศึกษา อีกทั้งยังขอให้รอการพิจารณาเพื่อรวมคดีกับแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่เหลือซึ่งยังไม่ได้ส่งฟ้อง
ศาลพิจารณาแล้วกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 23 เม.ย. 2562 เวลา 09.00 น. โดยให้สืบพยานโจทก์จำนวน 2 นัดครึ่ง และสืบพยานจำเลยครั้งแรกในวันที่ 25 เม.ย. 2562 เวลา 13.30 น. จำนวน 1 นัดครึ่ง ส่วนคำร้องขอให้พิจารณาคดีลับหลังของจำเลย ขอให้จำเลยยื่นคำร้องเข้ามาใหม่ในวันนัดสืบพยานนัดแรกต่อผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนที่จะเป็นผู้พิจารณาอนุญาตหรือไม่เอง สำหรับการขอรวมคดี ศาลเห็นว่าเป็นหน้าที่ของอัยการโจทก์ที่จะต้องยื่นคำร้องเข้ามา ในชั้นนี้จึงให้ดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อ
ขณะที่ก่อนหน้านั้นเวลา 13.20 น. นายรังสิมันต์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมีคำสั่งเรื่องห้ามการชุมนุมว่า ตามที่ศาลมีคำสั่งในคดีการชุมนุมเมื่อวันที่ 21-22 พ.ค. 2561 นั้น ศาลไม่ให้มีการชุมนุมที่ขัดต่อกฎหมาย ก่อความวุ่นวาย ตลอดการเคลื่อนไหวต่อสู้ของคนอยากเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่เคยได้รับคำพิพากษาว่าเป็นความผิด ดังนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีพฤติกรรมใดๆ ที่บอกว่าพวกเราทำผิดต่อกฎหมาย และล่าสุด พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คสช.ไปแจ้งความว่าพวกตนลักทรัพย์ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นเรื่องอะไร โดยนายอานนท์ นำภา ทนายความ ได้โพสต์ภาพหมายเรียกดังกล่าวในเฟซบุ๊ก การที่ศาลมีคำสั่งไม่ได้หมายความว่าเราทำอะไรไม่ได้ เราสามารถใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญได้ ถ้าเราทำกิจกรรมก็จะใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าเราทำได้ แต่จะถูกใจผู้มีอำนาจหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ในเดือนนี้เรารอให้มีการกำหนดการเลือกตั้งให้ชัดเจนก่อน กลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้ทำกิจกรรมตามโรดแมปมาหมดแล้ว สังคมต้องช่วยกันกดดันรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไร จะมีเลือกตั้งวันไหน กลุ่มคนอยากเลือกตั้งคงรอเรื่องดังกล่าวเป็นหลัก
ส่วนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น นายรังสิมันต์ให้ความเห็นว่า ยุทธศาสตร์ชาติส่งผลกระทบต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างมาก ดังนั้น การร่างจำเป็นต้องอาศัยตัวแทนประชาชน คนที่ร่างยุทธศาสตร์ชาติหรือแม้กระทั่ง พ.ร.บ.งบประมาณนั้น ควรให้ประชาชนรวมพิจารณา ที่ผ่านมากลับไม่มีเลย ถ้าเราจะร่างยุทธศาสตร์ไม่ว่าจะยาวนานแค่ไหนก็สมควรให้ประชาชนร่วมตัดสินใจ อย่างน้อยต้องเลือกคนที่เป็นปากเป็นเสียงให้แก่เขาได้ วันนี้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เป็นปากเสียงประชาชน แค่กับพวกเราที่เรียกร้องการเลือกตั้งยังถูกดำเนินคดี ตนไม่เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะมียุทธศาสตร์ตอบสนองผลประโยชน์ของประชาชน และประชาชนคงไม่ได้อะไรเลย