MGR Online - รอง ผบ.ตร.ผสานกำลังหลายหน่วยงานบุกค้นโรงงานเจดับบลิว เมทัล รีคัฟเวอรี่ อินเตอร์ กรุ๊ป ย่านคลองหลวง ซุกขยะอิเล็กทรอนิกส์บนเนื้อที่ 40 ไร่เศษ มีชาวจีนเป็นเจ้าของ ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ-ใบอนุญาตครอบครองวัตถุอันตราย ตรวจสอบชื่อกลับระบุอยู่สมุทรปราการ แถมใช้ต่างด้าวลักลอบทำงาน อุตสาหกรรมจังหวัดสั่งปิดทันที
วันนี้ (8 มิ.ย.) เวลา 14.20 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายปกครอง จ้าหน้าที่ ปอท. กระทรวงอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้นภายในโรงงาน เจดับบลิว เมทัล รีคัฟเวอรี่ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 39/25 ม.5 ซ.ตะวันออก 26 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังมีประชาชนแจ้งว่า โรงงานดังกล่าวนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มาเก็บไว้
จากการตรวจสอบภายในโรงงานมีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่เศษ มีชาวจีนเป็นเจ้าของ เมื่อมาถึงพบขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก และพบอุปกรณ์ เครื่องจักรต่างๆ ที่ใช้ในการคัดแยกอยู่ภายในโรงงานรวม 463.75 แรงม้า รวมถึงยังพบว่ามีแรงงานต่างด้าวเป็นลูกจ้างในการคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมาสอบปากคำและตรวจสอบว่าเข้ามาในประเทศไทยถูกกฎหมายหรือไม่
พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ถูกนำเข้ามาจากหลายประเทศ โรงงานนี้มีการสำแดงเท็จเป็นเศษพลาสติก แต่เมื่อมาตรวจกลับพบว่าเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเมื่อถูกความร้อนจากแสงแดดในอุณหภูมิประมาณ 37-40 องศาเซลเซียสจะมีสารเคมีอัตรายระเหยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ และเมื่อมีฝนตกก็จะชะล้างลงสู่แหล่งน้ำทำให้ประชาชนในละแวกนี้ได้รับผลกระทบ จากการตรวจสอบโรงงานแห่งนี้เบื้องต้นไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน และใบอนุญาตครอบครองวัตถุอันตราย และหากตรวจสอบจากชื่อโรงงานพบว่ามีการระบุที่ตั้งอยู่ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อขยายพื้นที่ คาดว่าเพื่อรองรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่จะมีเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เพราะระยะหลังมานี้ประเทศจีนมีกฎหมายห้ามนำเข้าหรือจัดการทำลายขยะในประเทศ เนื่องจากทำลายสิ่งแวดล้อมและต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการฟื้นฟู
ทั้งนี้ หลังจากเข้าตรวจค้นโรงงานขยะที่ผิดกฎหมายยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ได้สั่งการให้ตรวจสอบเพิ่ม หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
เบื้องต้นอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานีสั่งปิดโรงงานแห่งนี้ทันที ขณะที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีต่อเจ้าของโรงงานในความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน ฐานประกอบกิจการโรงงานบดย่อยพลาสติกโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิด พ.ร.บ.วัตถุอันตราย และ พ.ร.บ.แรงงานต่างด้าว