MGR Online - บช.น.แถลงจับแก๊งโจรกรรมรถก่อนนำไปสวมซาก-ขายหลุดจำนำ ยึดของกลาง 16 คัน จยย.4 คัน มี ร.ต.ท.สังกัด บก.จร.ร่วมขบวนการ
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ธนากร อ่อนทองคำ รอง ผกก.กก.อารักขา 1 บก.อคฝ. แถลงผลการจับกุม นายวีรวัฒน์ จันทร์กลาง ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมของกลางรถยนต์ 16 คัน ได้แก่ รถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ 3 คัน, รถกระบะ 4 คัน, รถเก๋ง 8 คัน และรถตู้แวน 1 คัน รวมถึงจักรยานยนต์ 7 คัน, ชุดสว่านไฟฟ้า 1 ชุด, แผ่นป้ายทะเบียน 9 แผ่น, เอกสารคู่มือประจำรถ 10 ชุด, แผ่นเพลตแสดงหมายเลขเครื่อง และหมายเลขตัวถังรถ 9 แผ่น, แผ่นเพลตที่ยังไม่ตอกหมายเลข 40 แผ่น และอะไหล่รถจำนวนหลายรายการ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 2/23 หมู่ 12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าวว่า สืบเนื่องจาก 1 ปีที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้รับแจ้งรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ หายไปกว่า 80 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบจนทราบว่ามีแก๊งคนร้ายมีพฤติการณ์ตระเวนโจรกรรมรถยนต์ในเขตกรุงเทพฯ จ.สุพรรณบุรี จ.สระแก้ว และ จ.สมุทรปราการ จึงได้สืบสวนหาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายนำรถที่โจรกรรมมาได้ไปซุกซ่อน กระทั่งวันที่ 26 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลอาญาเข้าตรวจค้นบ้านพักที่คนร้ายนำรถที่ลักมาไปซุกซ่อน จำนวน 9 จุด ในเขตพื้นที่ จ.สระแก้ว จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.สุพรรณบุรี และ จ.ปทุมธานี สามารถตรวจยึดรถของกลางที่ลักมาจากผู้เสียหายได้ 2 คัน รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 5 คัน และรถที่เกี่ยวข้องกับคดีอีก 9 คัน จนสามารถจับกุมนายวีรวัฒน์ไว้ได้ ส่วนผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย คือ นายสุชาติ รอดหงส์ทอง และนายรุ่งโรจน์ นาคเกษม หลบหนีไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
สอบสวนนายวีรวัฒน์รับสารภาพว่าแก๊งของตนมีจำนวน 3 คน นายสุชาติทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแก๊ง คอยติดต่อรับงานจากกลุ่มนายหน้า ตนทำหน้าที่ขับตระเวนหารถที่เป็นเป้าหมายในการลักทรัพย์ ส่วนนายรุ่งโรจน์ทำหน้าที่กำจัดสัญญาณกันขโมย ปลดล็อกประตู สตาร์ทเครื่องรถที่ลัก ทั้งนี้ ก่อนเริ่มงานผู้จ้างวานจะจ่ายเงินมัดจำให้กลุ่มผู้ต้องหาเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท จากนั้นพวกตนจะออกตระเวนหาลักทรัพย์รถยนต์ที่จอดไว้ในที่ลับตา หรือตามหมู่บ้านที่ไม่มี รปภ. เมื่อสามารถลักรถยนต์คันดังกล่าวออกมาได้แล้ว จะนำไปซุกซ่อนไว้ที่อู่รถย่าน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และเปลี่ยนแปลงสภาพภายนอกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะส่งต่อรถไปที่อู่รถยนต์ใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ที่รับสวมซากรถที่เกิดอุบัติเหตุ จากนั้นจะนำรถที่สวมซากแล้วไปขายในตลาดรถมือสอง เต็นท์รถ หรือนำไปโพสต์ขายตามเพจเฟซบุ๊ก โดยบอกว่าเป็นรถหลุดจำนำราคาถูก การขายแบบรถหลุดจำนำจะทำให้ได้ราคามากกว่าการขายแบบรถลักมา หากผู้ที่ซื้อมาแล้วจะไม่สามารถโอนเล่มทะเบียนได้ หรือส่งขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา, ลาว, พม่า) เมื่อสามารถขายรถให้ลูกค้าได้แล้ว กลุ่มผู้ต้องหาจะได้รับค่าตอบแทน สำหรับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ คันละประมาณ 150,000-200,000 บาท และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ได้ค่าตอบแทนคันละ 200,000-350,000 บาท
ทั้งนี้ มีรายงานพบว่า ผู้สั่งออเดอร์รถยนต์เป็นนายตำรวจยศ ร.ต.ท.สังกัด บก.จร. โดยจะเป็นผู้โอนเงินให้แก๊งลักรถครั้งละ 5,000 บาท มีการโอนให้แล้วมาร่วม 5 ครั้ง