MGR Online - กองปราบขอหมายค้นครั้งที่ 2 ค้นกุฏิฉัตรลีลาของพระพรหมสิทธิ และ วัดสัมพันธวงศาราม ของพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ฟอกเงิน” เพื่อตรวจสอบเอกสารทางการเงินทั้งหมด
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.กิตติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ สว.กก.1 บก.ป. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าค้นกุฏิฉัตรลีลา ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของค้นวัดพระพรหมสิทธิ - พระพรหมเมธี รอบ 2 เน้นในส่วนของเอกสารทางการเงิน เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 พ.ต.ท.กิตติเมศร์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้ได้ขอหมายค้นครั้งที่ 2 เพื่อดำเนินการตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยจะเน้นในส่วนของเอกสารทางการเงินทั้งหมด
ด้าน พ.ต.อ.อนุราช จิตศีล ผกก.กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการเก็บหลักฐานสำคัญบางอย่างเพื่อไปตรวจพิสูจน์แล้ว ทั้งเป็นเอกสารวัตถุพยานจำพวกดีเอ็นเอ ซึ่งมีความเชื่อมโยงถึงตัวบุคคลต่างๆ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด โดยลายนิ้วมือจะมีมากกว่า 1 คนหรือไม่นั้น จะต้องนำไปตรวจสอบก่อนต้องรอผลการพิสูจน์ ส่วนกล้องวงจรปิดวันนี้ยังไม่ได้ทำการตรวจสอบ ซึ่งจะต้องมีการประชุมการสอบสวนก่อนจะเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน ลูกศิษย์วัด (ขอสงวนชื่อ - สกุล) เปิดเผยว่า กรณีบัญชีของเจ้าอาวาสมีเงินฝากกว่า 132 ล้านบาทว่า เป็นเงินที่ประชาชนบริจาคเพื่อบูรณะบำรุงวัดเท่านั้น ไม่ได้มีการใช้จ่ายส่วนตัว สามารถตรวจสอบได้ ส่วนกรณีเรื่องประตูลับที่สื่อหลายสำนักนำเสนอข่าวว่าเป็นทางหลบหนีของเจ้าอาวาสนั้น เป็นความเข้าใจผิดของสื่อ เพราะประตูดังกล่าวใช้สำหรับขนวัสดุก่อสร้างและมีคนเข้าออกบ้างบางเวลาเท่านั้น ส่วนที่มีรายงานข่าวว่า เจ้าอาวาสวัดสระเกศจะสร้างโรงแรมในพื้นที่วัดนั้น ขอย้อนว่า ความเป็นจริงแล้วสามารถทำได้หรือไม่ สำนักงานเขตจะอนุมัติให้ก่อสร้างหรือไม่ พร้อมเชื่อว่าเจ้าอาวาสไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศอย่างแน่นอน
รายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กองปราบปราบอีกชุด ได้เข้าตรวจค้นวัดสัมพันธวงศารามเพิ่มเติม หลังวานนี้ได้เข้าตรวจค้นเพื่อจับกุมพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4 - 7 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ฟอกเงิน” แต่ไม่พบตัว โดยวันนี้เป็นการตรวจสอบภายในกุฏิพระทั้งหมด เพื่อสำรวจว่าแต่ละห้องเป็นของพระรูปใดบ้าง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในทางการสืบสวนพบข้อมูลว่า พระพรหมเมธี ยังอยู่ภายในประเทศไทย ไม่ได้หลบหนีไปต่างประเทศตามข่าวลือ สอดคล้องกับการสอบปากคำของพระคนสนิทให้การว่า พระพรหมเมธี กำลังพิจารณาถึงการมอบตัวสู้คดี แต่เกรงว่าศาลจะไม่อนุญาตให้ประตัวเหมือนกับพระผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูป ที่ถูกจับและถูกสึก นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพระคนสนิทของพระพรหมเมธี พบว่า ยังไม่มีรูปใดหายไปแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางชุดสืบสวนได้เร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้มากที่สุด