xs
xsm
sm
md
lg

ค้นบ้านหรูย่านบางกรวยรับโอนเงิน 5 ล้าน จากพระเถระ แก๊งเงินทอน พบสูบค่าเช่าที่วัดเดือนละ 3 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


กองปราบฯ เข้าค้นบ้านพักย่านบางกรวย หาหลักฐานเพิ่มเติมคดีทุจริตเงินทอนวัด หลังพบชื่อผู้พักอาศัยรับโอนเงินจากพระชั้นผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม จำนวน 5 ล้านบาท พบเอกสารโอนเงินชัด พร้อมสัญญาเช่าที่ดินวัดเดือนละ 3 หมื่น ปล่อยเช่าต่อร้านอาหารรับทัวร์จีน ฟันเดือนละ 3 แสน



เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พ.ค. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 และ กก.4 บก.ป. พร้อมหมายศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ 411-413/2561 ลงวันที่ 19 พ.ค. เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 64/16 พัก 2 หมู่บ้านธรินภรณ์วิลล่า ถ.เฉลิมพระเกียรติ ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินงบประมาณเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรือเงินทอนวัด

จากการตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ตั้งอยู่ลนเนื้อที่ประมาณ150 ตารางวา มีนายวิวุฒิ หรือวินัย อุดมโชคปิติ และนางวิภาพร หรือเยาวภา อุดมโชคปิติ สองสามีภรรยาแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ตรวจสอบภายในบ้านพบเอกสารธุรกรรมทางการเงิน หนังสือสัญญาเช่าที่ดินวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม. และเอกสารอื่นๆ อีกหลายรายการ

จากก่อนหน้านี้ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ช่วยตรวจสอบการทุจริตเงินงบประมาณโครงการโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีการกระจายงบประมาณสนับสนุนการจัดทำโครงการดังกล่าวไปตามวัดต่างๆ กระทั่งต่อมาทางด้านกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้มีการตรวจพบการทุจริตเกิดขึ้นในวัดใหญ่แห่งหนึ่งภายในพื้นที่ กทม.และมีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินโครงการดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่ามีการนำเงินดังกล่าวไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ทางสำนักพุทธฯกำหนด จึงได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินกระทั่งพบพระชั้นผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคมรูปหนึ่งและเป็นเจ้าอาวาสดังกล่าว ได้มีการโอนเงินงบประมาณที่ทางวัดได้รับสนับสนุนจากทางสำนักพุทธฯมายังบัญชีธนาคารส่วนตัวของ สองสามีภรรยาคู่นี้จำนวน 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท โดยไม่ทราบเหตุผล จึงได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าทำการตรวจค้นเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีการทุจริตเงินงบประมาณดังกล่าว

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบเอกสารหลายรายการที่มีความเชื่อมโยงกับทางวัด โดยเฉพาะเอกสารสัญญาการเช่าใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงหนึ่งของวัด ที่สองสามีภรรยาคู่นี้ได้ทำการเช่าที่เพื่อนำไปเปิดเป็นบริษัท โดยมีสัญญาจ่ายค่าเช่าเดือนละ 30,000 บาท แต่จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวได้มีการนำที่ดินแปลงดังกล่าวไปปล่อยเช่าช่วงต่อให้กับเอกชนรายอื่นอีกทอดหนึ่งเพื่อใช้เปิดร้านอาหารให้กับทัวร์จีน ในสัญญาเช่า 3 แสนบาท ต่อเดือน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าสองสามีภรรยาคู่นี้นอกเหนือจากเงินค่าเช่า 3 หมื่นบาทต่อเกือนแล้วยังมีการโอนเงินกำไรส่วนต่างจากการปล่อยเช่าที่ต่อให้กับบุคคลอื่นไปให้กับบุคคลภายในวัดด้วยหรือไม่

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าสองสามีภรรยาคู่นี้ มีความสนิทสนมและเคารพศรัทธาเจ้าอาวาสรูปนี้เป็นอย่างมาก และมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันในระดับหนึ่ง โดยหลังจากนี้จะเชิญสองสามีภรรยาคู่นี้ ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงที่ไปที่มาขอการรับโอนเงิน รวมถึงการทำธุรกิจร่วมกับทางวัด

รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนทราบว่านายวิวุฒิ หรือวินัย และนางวิภาพร สองสามีภรรยา คู่นี้นั้น ทำธุรกิจประกอบกิจการขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ร่วมกับทางวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม. ที่มีการโอนเงินจำนวน 5 ล้านบาทดังกล่าวมาให้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองปราบปราม จึงได้กระจายกำลังเข้าตรวจค้นร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ในเครือของสองสามีภรรยาคู่นี้เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมด้วย ขณะที่รายละเอียดในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงินนั้นทราบว่าเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวได้ทำการโอนเงินเข้ามายังบัญชีของนางวิภาพร ก่อนจะมีการโอนถ่ายต่อไปยังบัญชีของนายวิวุฒิ อีกทอดหนึ่ง

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการสอบสวนนายวิวุฒิ หรือวินัย และนางวิภาพร ให้การว่า สำหรับเงินจำนวน 5 ล้านบาทที่ทางเจ้าอาวาสโอนมาให้นั้นเป็นเงินที่จะนำไปจ่ายให้กับคนงานที่รับเหมาก่อสร้างต่อเติมอาคารต่างๆ ภายในวัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากว่าทั้งนายวิวุฒิ หรือวินัย และนางวิภาพร ไม่สามารถชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่ให้แน่ชัดได้ว่าเพราะเหตุใดทางวัดถึงให้ทั้งสองคนเป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับคนงานในส่วนนี้แทนที่ทางวัดจะเป็นผู้จ่ายเอง นอกจากนี้คำให้การดังกล่าวจะถือเป็นหลักฐานส่วนหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และการขยายผลเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องการทุจริตเงินงบประมาณที่ได้รับจากทางสำนักพุทธ เนื่องจากว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการนำไปใช้ผิดหลักวัตถุประสงค์ของโครงการ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับสองสามีภรรยาคู่นี้ เนื่องจากเป็นการเชิญตัวมาสอบปากคำในฐานะพยาน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบยังได้ทำการเชิญตัวพยานรายอื่นมาให้ปากคำเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 3 ราย โดยเป็นชาย 2 รายและหญิงอีก 1 รายซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการเข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน

ขณะที่ในส่วนความคืบหน้าการนำหมายศาลจังหวัดมีนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 265/154 หมู่บ้านสีวลี รามคำแหง ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ของ ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา ทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.)ซึ่งได้มีการตรวจพบอาวุธปืนจำนวนมากนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้รับการประสานจาก ร.ท.ฐิติทัตน์ ว่าจะเข้าให้ปากคำ เพื่อชี้แจงที่มาที่ไปของอาวุธปืน ที่ กองบังคับการปราบปราม ในวันที่ 21 พ.ค. ที่จะถึงนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น