ผกก.สน.สายไหม ชี้แจงกรณีสองแม่ลูกโพสต์เฟซบุ๊กถูกตำรวจซ้อมให้ยอมรับคดีฆ่าคนตาย ยืนยันไม่ได้ทำร้าย พร้อมโชว์หลักฐาน ภาพขณะผู้ต้องหาไปกับมือปืน ดูร่างผู้เสียชีวิต ด้านสองแม่ลูกโต้ทันควัน เป็นคลิปตัดต่อ ยืนยันมีผลตรวจจาก รพ. ถูกทำร้ายจริง
วันนี้ (5 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สน.สายไหม พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวกรณีที่มีการโพสต์ในโซเชียลมีเดียขอความเป็นธรรมลูกโดน ตร. ซ้อมให้รับคดีฆ่าคนตาย
พ.ต.อ.ทนงศิลป์ กล่าวว่า การชี้แจงในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนจาก นายพงศธร หรือ เอ็ม พุ่มราตรี อายุ 27 ปี และ น.ส.องุ่น พุ่มราตรี อายุ 52 ปี สองแม่ลูก ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม คือ พ.ต.ท.ประพจน์ ได้ทำร้ายร่างกายตนขณะคุมตัวสอบสวนอยู่ที่ห้องสืบสวน สน.สายไหม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอชี้แจ้งว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ในวันเกิดเหตุเราได้เชิญตัวนายพงศธร ไว้ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเนื่องจากอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยไม่ได้มีการแตะเนื้อต้องตัวและไม่ได้ใส่กุญแจมือ และทำการสอบสวนพร้อมทนายความ ซึ่งจากการสอบสวนนายพงศธรให้การปฏิเสธ
พ.ต.อ.ทนงศิลป์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่จนได้ภาพกล้องวงจรปิด โดยปรากฏเป็นภาพ ว่า นายพงศธร ได้ลงมาจากรถของมือปืนจากนั้นได้พากันเดินไปดูผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ก่อนที่มือปืนจะหลบหนีไป จากนั้นศาลได้มีการอนุมัติหมายจับเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายรูปทำประวัติตอนเวลา 15.00 น. ของวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นผู้ต้องหายังมีสภาพร่างกายปกติไม่มีบาดแผลใดๆ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะมีการมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.สายไหม วันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเอาผิด พ.ต.ท.ประพจน์ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ต่อมาวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้โพสต์ภาพว่าโดนทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ
พ.ต.อ.ทนงศิลป์ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ก่อน ถ้าพบว่าทางนายพงศธรมีการทำให้ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เสียหายก็จะดำเนินคดีกับผู้นั้น ขอยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีการขอเจรจากับทางผู้ต้องหาเพื่อขอไกล่เกลี่ยแต่อย่างใดตามข่าวที่ปรากฏ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ นายพงศธร และ น.ส.องุ่น ได้เดินทางเข้ามา ท่ามกลางความงุนงงของผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ พร้อมกล่าวขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว โดย น.ส.องุ่น กล่าวว่า กล้องวงจรปิดที่เอามาเป็นหลักฐานของเจ้าหน้าที่ เป็นภาพที่ตัดต่อมา ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นภาพกล้อง ว่า ลูกของตนไม่ได้มากับมือปืน พร้อมทั้งมีหลักฐานการตรวจร่างกายจากทาง รพ. ด้วยว่ามีการถูกทำร้ายร่างกายจริง
ด้าน นายพงศธร กล่าวว่า ตนถูกควบคุมตัวมาที่ห้องสืบสวน สน.สายไหม เมื่อไปถึงห้องสืบสวน ก็มีนายตำรวจนั่งอยู่ในห้องหลายคน ตั้งแต่ ผกก.สายไหม และ ระดับ รอง ผกก. แล้วถามว่า “ไอ้น้องไหนเล่ามาสิว่าคนยิงมันหลบหนีไปไหน ยังไง” ซึ่งตนก็ตอบไปว่าไม่ทราบ เพราะไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนที่จะถูกรอง ผกก.สส.สน.สายไหม ทำร้ายร่างกายด้วยการตบใบหน้า 1 ครั้ง จนล้มลง แล้วใช้เท้ากระทืบต่อจนได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ ระหว่างการชี้แจง เจ้าหน้าที่ได้นำภาพถ่ายขณะสอบสวนและภาพถ่ายตอนทำประวัติมาให้ผู้สื่อข่าวดูว่าผู้ต้องหาไม่มีร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด