MGR Online - กองปราบได้รับไฟเขียวเซ็นหมายเรียก 9 ดาราแล้ว รอง ผบ.ตร. เผย มีผู้เสียหายกว่า 500 คน เตรียมขยายฟันยี่ห้ออื่น โดยใช้กรณีคดียูฟันเป็นแนวทางการดำเนินคดี
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบคดีการดำเนินการเอาผิดผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน ทั้งในส่วนของ บก.ป. บก.ปคบ. และ บก.ปอท. โดยใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวภายหลังประชุมว่า ในส่วนการออกหมายเรียกกลุ่มดารานักแสดงล็อตแรก จำนวน 9 ราย ที่มีการรีวิวสินค้า ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ดำเนินการออกหมายเรียกไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าดารานักแสดงคนใดจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำ เนื่องจากยังไม่ได้รับการประสานมา โดยคาดว่าหลังจากที่ได้รับหมายเรียก 7 วัน จะมีความชัดเจน ทั้งนี้ หากไม่เดินทางมาตามกำหนดก็จะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งหากไม่เดินทางมาตามหมายเรียกก็จะดำเนินการออกหมายจับทันที
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า ส่วนในวันนี้ได้มีการหารือวางแนวทางการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานการดำเนินคดี ซึ่งในที่ประชุมได้ลงความเห็นในการดำเนินคดีแยกชนิดของแต่ละผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน ซึ่งมีด้วยกัน 7 ผลิตภัณฑ์ และมีหลายผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้ไปทำการจด และทาง อย. ได้ทำการเพิกถอนประมาณ 226 รายการ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้จะเห็นภาพรวมว่าแต่ละผลิตภัณฑ์มีใครบ้างเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งแต่เดิมเราทำในภาพรวมเป็นคดีใหญ่ แต่ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกว่า 500 ราย และไม่ได้มีเพียงผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกินเท่านั้น ยังมีผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากผลิตภัณฑ์อื่นเข้ามาแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวนกองปราบด้วย
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนขยายผล หากพบว่ามีการกระทำความผิด ทั้งในส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนก็จะดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้วางแนวทางการสืบสวนขยายผลในทุกองค์ประกอบความผิด รวมทั้งผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทุกกระบวนการขั้นตอนในการที่จะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ ก็ถือว่าเข้าข่ายความผิด และหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการออกหมายจับเช่นเดียวกัน
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนี้มีคดีฉ้อโกงประชาชนจำนวนมาก ซึ่งทางรัฐบาลได้ให้ความสนใจโดยเฉพาะกรณีเมจิกสกิน และการหลอกลงทุนในรูปแบบต่างๆ ทั้งคริปโตเคอเรนซี บล็อกเชน และการลงทุนสกุลเงิน หรือทองคำออนไลน์ รวมทั้งลงทุนผลิตภัณฑ์ในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะเข้าหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยยกกรณีการเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาในคดียูฟันมาเป็นต้นแบบ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม