xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว! พระอวดอุตริสะเดาะเคราะห์ กรอกน้ำมนต์ทำสาว 18 ดับ ล่าอีก 1 พระโอภาษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจตามจับแก๊ง 4 ผู้ต้องหากรอกน้ำมนต์อ้างสะเดาะเคราะห์ ทำสาว 18 ดับ ที่ จ.ชัยภูมิ แม่ร่ำไห้วอนล่าตัว “พระโอภาษ” หัวหน้าแก๊ง ด้านผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ได้กรอกน้ำมนต์ แต่เจ้าตัวดื่มเอง

วันนี้ (6 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายขาน เชิดจอหอ อายุ 48 ปี และนางดวงจิต คณาเขว้า อายุ 38 ปี สองสามีภรรยาชาว ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เพื่อชี้ตัว 4 ใน 5 ผู้ต้องหาที่กรอกน้ำมนต์ให้ น.ส.สุพัก เชิดจอหอ อายุ 18 ปี บุตรสาว และขอให้เร่งติดตามผู้ต้องหาอีก 1 รายที่เหลือซึ่งเป็นพระสงฆ์และเป็นหัวหน้าแก๊งด้วย

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บิดามารดาของ น.ส.สุพัก เห็นว่าคดีนี้ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เกรงว่ากลุ่มผู้กระทําความผิดอาจสนิทสนมกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น จึงได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.แก้งคร้อ เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุเร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทําความผิดมาดําเนินคดี จนกระทั่งขอศาลจังหวัดภูเขียวออกหมายจับผู้ต้องหา และศาลได้อนุมัติหมายจับทั้งหมด 5 ราย คือ (1. น.ส.กรรณิการ์ ไม้สังข์ อายุ 37 ปี ที่อยู่ 86/14302 ม.13 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ตามหมายจับที่ 52/2561 ลงวันที่ 5 เม.ย. 61 (2. พระบุญปัน บุญโนนเต้ อายุ 66 ปี ที่อยู่ 505 ม.10 ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ตามหมายจับที่ 53/2561 ลงวันที่ 5 เม.ย. 61 (3. น.ส.บุญหลาย จันทร์ลา อายุ 36 ปี ที่อยู่ 88 ม.12 ต.วังสามหมอ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ตามหมายจับที่ 54/2561 ลงวันที่ 5 เม.ย. 61 (4. พระโอภาษ ศรีสง่า อายุ 43 ปี ที่อยู่ 505 ม.10 ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ตามหมายจับที่ 55/2561 ลงวันที่ 5 เม.ย. 61 (5. นายมงคล ใยแก้ว อายุ 33 ปี ที่อยู่ 65 ม.1 ต.คําโคกสูง อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ตามหมายจับที่ 56/2561 ลงวันที่ 5 เม.ย. 61 ในความผิดฐานกระทําโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวทั้ง 4 รายได้ที่ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า สำหรับพระโอภาษ หนึ่งในผู้ต้องหา ถือเป็นหัวหน้าแก๊งและเป็นคนสั่งการ อยู่ระหว่างติดตามจับกุม ตรวจสอบเบื้องมีหนังสือสุทธิถูกต้อง แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งว่าเป็นพระสงฆ์จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากผลตรวจทางวิทยาศาสตร์พบสารพิษในน้ำมนต์ก็จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อผู้ต้องหาทั้งหมด

ด้านนางดวงจิตกล่าวทั้งน้ำตาว่า กรณีดังกล่าวเหตุเกิดตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุบุตรสาวและพ่อได้พบกับกลุ่มพระภิกษุบริเวณวัดท่าเว่อ ที่เป็นวัดร้าง พระกลุ่มดังกล่าวเป็นพระต่างถิ่นที่เพิ่งมาอาศัยอยู่ในวัดร้างชั่วคราว เดินเข้ามาทักบุตรสาวว่าโดนคุณไสยมนต์ดำ ถ้าอยากหายต้องกินน้ำมนต์ 2 บาตร ตอนแรกเข้าใจว่าแฟนบุตรสาวอาจเป็นคนทำคุณไสยใส่ ประกอบกับช่วงนั้นบุตรสาวบ่นมีอาการปวดขาจึงยินยอมให้บุตรสาวเข้าทำพิธีกรรม หลังจากนั้นพระได้ทำน้ำมนต์แล้วนำมากรอกให้ดื่ม แก้วแรกก็อาเจียนออกมา ตัวเองก็หวั่นใจขอให้หยุดดื่มได้เพราะกลัวจะไม่ไหว แต่พระยืนยันว่าต้องดื่มให้หมด จนสภาพไม่ไหวจึงนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์ลงความเห็นว่ามีอาการสมองบวม เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไป

“ไม่อยากให้มองว่าพระจะเป็นคนดีเสมอไป มาร้องเรียนเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับลูกคนอื่น ขอให้มีแค่ลูกฉันคนเดียว ด้วยความเป็นพระจึงยอมเชื่อและทำตาม อยากถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ อยากให้คนที่ทำมีสำนึก ให้เงินค่ายกครูไป 400 บาท ทราบว่าพระรูปนี้เคยเปิดสำนักและเคยสะเดาะเคราะห์ให้คนในพื้นที่ จ.เลยด้วย” นางดวงจิตกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ธวัธชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง กล่าวว่า ได้รับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุมาตรวจหลายรายการจาก พฐ.ชัยภูมิ เช่น แก้วน้ำดื่ม คราบอาเจียน เศษอาหารที่อาเจียนออกมาบริเวณพื้น ส่วนบาตรน้ำมนต์นั้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่พบ อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบว่าน้ำมนต์ดังกล่าวมีสารพิษหรือไม่

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดปฏิเสธว่าไม่ได้กรอกน้ำมนต์ แต่ น.ส.สุพักเป็นคนดื่มเอง พร้อมทั้งขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเคยทำพิธีสะเดาะเคราะห์ที่ จ.เลยมาก่อน ส่วนค่ายกครูจำนวน 400 บาทนั้นยืนยันว่าไม่ได้บังคับ เรียกตามจิตศรัทธา หลังเกิดเหตุติดต่อพระโอภาษได้เพียงครั้งเดียว ได้บอกให้ทุกคนสลายตัวก่อน




กำลังโหลดความคิดเห็น