รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2561 ตอน เปิดลับ “ทักษิณ-ปู”บุกโตเกียว ปลุกใจลูกพรรค สู้ “พลังดูด”
นัยซ่อนเร้นการปรากฏตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหนีคุก มีอะไร? “ทักษิณ”โผล่ออกมาถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ส่งรังสีอำมหิตแผ่ปกคลุมมาถึงเมืองไทย ทำให้คสช. และรัฐบาลสะท้านทรวงกันไปทุกครั้ง ล่าสุดยกพลขึ้นบกไปงานเปิดตัวหนังสือของอดีตรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว
โดยเกี่ยวก้อยน้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มาออกงานอย่างเป็นทางการครั้งแรก นับจากหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีรับจำนำข้าว เมื่อกลางปีที่แล้ว
การมาของสองพี่น้องชินวัตรจุดประเด็นการเมือง กลับมาร้อนขึ้นทันที “ทักษิณ” ควง “ยิ่งลักษณ์” ออกงาน พอจะจับทิศทางสตอรี่นี้ได้ไม่ยาก คือไม่มีอะไรมากกว่าแค่เพียงต้องการสื่อสารเรียกร้องความเห็นใจ ว่าที่ต้องระเห็จระเหิน เพราะถูกรังแกด้วยอำนาจเผด็จการ ทั้งที่ประชาชนยังรัก และต่างชาตินั้นเข้าใจเรื่องดี ถึงให้เข้าออกได้แทบจะทุกประเทศ
แอ๊คชั่นมาแอ๊คอาร์ตที่ญี่ปุ่น ผลคือได้เย้ย คสช.กลายๆ ขณะเดียวกัน “ทักษิณ” เปิดปากเรียกร้องให้ทหารคืนอำนาจเพื่อกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย และไม่ลืมเกทับทหารว่า พรรคเพื่อไทยในยุคปัจจุบันจะยังเป็น “ผู้ชนะ” ในสนามเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น “นายใหญ่เพื่อไทย” ยังได้ประเมินการเลือกตั้งคราวหน้า “เพื่อไทย” จะได้คะแนนมโหฬารถึง 230 ที่นั่งในสภา แม้รัฐธรรมนูญจะบล็อกทุกทางเพื่อบอนไซพรรคใหญ่ก็ตาม
ตามบทบาทที่ให้ยิ่งลักษณ์แสดงตัว ผู้พี่กระแทกใส่ท็อปบูต การเคลื่อนไหวรอบนี้ไม่ใช่แค่ภาพหลุด แต่เป็นความตั้งใจให้เป็นข่าวสะเทือนมาถึงประเทศไทย ตามสไตล์ “บิ๊กแม้ว” ที่ใช้ประจำในแต่ละจังหวะทางการเมือง เพื่อเป้าหมายอะไรบางอย่าง
โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เข้าสู่โหมดของการ “เคาท์ดาวน์” สังเวียนเลือกตั้ง ที่ยังมีความเคลื่อนไหวของการกวาดต้อนอดีต ส.ส.เข้าสู่อ้อมอกท็อปบูตไม่หยุดหย่อน สภาวการณ์ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยระส่ำระส่ายพอสมควร เอาแน่เอานอนไม่ได้ จนบัดนี้ยังไม่รู้ว่า ใครบ้างที่ยังจงรักภักดี
ค่าย “เพื่อไทย” มีแต่ “เลือดไหลไม่หยุด” นับตั้งแต่บ้านใหญ่ “นครปฐม” ของตระกูลสะสมทรัพย์ ที่ค่อนข้างชัดแล้วว่า จะไม่ไปรายงานตัวกับต้นสังกัดเก่า และยังปรากฏข่าวเสียก๊กนั้นก๊กนี้ไปให้เหล่าทหารอยู่เรื่อยๆ
มันเลยต้องถึงคิว “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ลงมือทำอะไรสักอย่าง
ว่ากันตามเนื้อผ้า งานเปิดตัวหนังสืออดีตรัฐมนตรียุ่นเพื่อนรักเที่ยวนี้ ไม่ได้มีอะไรสำคัญ แค่งานธรรมดาๆ แต่”ทักษิณ”จงใจอยากไปให้เป็นข่าว หรือแม้แต่การสัมภาษณ์ ที่น่าจะมีการจัดฉากเพื่อให้สื่อญี่ปุ่นมาถาม เพื่อเผยแพร่สารนี้มาถึงประเทศไทย
เป้าหมายหลักไม่น่าจะใช่ต้องการด่า “ท็อปบูต” แต่เจตนาน่าจะเป็น “สมุน” ในพรรคเพื่อไทย ที่ “นายใหญ่” ต้องการสื่อสารมาถึง ในภาวะที่เลือดกำลังไหล ไม่รู้สุดท้ายใครบ้างที่จะยังอยู่กับพรรคต่อ?
พวกที่ยังลังเลไม่รู้จะอยู่หรือเผ่นเอาตัวรอด พอได้ยินความมั่นใจถึงผลการเลือกตั้งว่า ยังเป็นพรรคเพื่อไทย นอกจากจะมั่นใจว่า “นายใหญ่” ยังไม่ทิ้งพรรคแล้ว จะได้ใจชื้น ไม่หนีหน้า ลาจากกันไป ยังเชื่อในความนิยมแบรนด์ “ชินวัตร”
จังหวะนี้ถือเป็นไฟต์บังคับให้ “นายใหญ่” ต้องควง “หญิงปู” ออกมาทำอะไรกันบ้าง เพราะช่วงที่ผ่านมาพรรคแล่นเหมือนเรือไม่มีหางเสือ “ทักษิณ” นิ่งเงียบ “ยิ่งลักษณ์” เก็บตัว ข่าวออกมานานาสารพัด ไม่รู้ “ตระกูลชิน” จะเอาอย่างไร จะทิ้งหรือสู้
ความไม่แน่นอนตรงนี้ เลยมีสมาชิกถอดใจจะปลีกตัวออกห่าง เพราะถ้าไม่มีทุนทรัพย์ “นายใหญ่” มาขับเคลื่อนการเมือง ก็เหมือนรอวันแตกดับ อย่าลืมว่า ที่ “พรรคเพื่อไทย” ยังแข็งแกร่งนอกจากความนิยมในตัวตระกูลชิน อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ “ท่อน้ำเลี้ยง” จากแดนไกล
ไม่มีเงินลงทำพื้นที่ นักเลือกตั้งอาชีพก็ต้องมองหาชายคาใหม่ที่ให้ความอิ่มหนำได้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาความไม่ชัดเจนตรงนี้ มีหลายคนเก็บกระเป๋าออกจากค่ายสีแดงไปหาที่อยู่ใหม่กันหลายคน เพราะไม่รู้อนาคต “นายใหญ่” จะสู้หรือจะปล่อย
อีกจุดสำคัญ นับแต่รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา “ท่อน้ำเลี้ยง” ที่เคยไหลมาตลอดหยุดชะงัก ไม่มีเงินเข้าพรรคมาสนับสนุนเหมือนแต่ก่อน หลังๆอดีตสส. พรรค ก็งดทำพื้นที่เพราะไม่มีเงินจะขับเคลื่อน หลายคนมองหาช่องทางใหม่เพื่อเอาตัวรอด
“ทักษิณ” เลยต้องเทคแอกชั่นแบบจิตวิทยา ส่งผ่านมาถึงลูกหาบเพื่อสร้าง “ขวัญกำลังใจ” ปลอบไปก่อนว่า อย่างไรก็ชนะอย่าเพิ่งหนีกัน ปั้นตัวเลขไปเลยสูงๆ 230 ที่นั่งไว้ให้อุ่นใจจะได้ไม่คิดตีจาก
ทั้งที่ความเป็นจริงโดยสถานการณ์พรรคเพื่อไทยไม่มีทางได้ตัวเลขสูงขนาดนั้น เพราะกติกาในรัฐธรรมนูญใหม่ที่ตีกรอบไม่ให้จำนวน ส.ส.ทะลุเพดาน ไม่มีทางผูกขาดได้เหมือนเดิม แต่จำเป็นต้องสร้างความมั่นใจข่มไว้ก่อน เพราะสถานการณ์ภายในพรรคย่ำแย่ขีดในยามนี้
การมาเยือนโตเกียวของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”จึงเป็นการเดินหมากการเมือง เพื่อประกาศให้รู้ว่า การเมืองไทยยังมีตระกูลชินวัตรเป็นตัวแปรที่สำคัญ!