MGR Online - ศาลอาญาให้ประกัน “ไอ้จ๊อด” ตีราคาหลักทรัพย์ 180,000 บาท หลังตำรวจห้วยขวางพาตัวฝากขัง-แจ้งข้อหาเพิ่มทำร้าย “ลุงซาเล้ง” จนถึงแก่ความตาย ขณะที่ผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียด และจะไปร่วมงานศพที่จ. อยุธยา
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (30 มี.ค.) ร.ต.อ.รุ่งศักดิ์ นันตะเวช พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ควบคุมตัวนายนราธร หรือจ๊อด โสดติยัง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 471/244 ซอยสุทธิพร แขวงและเขตดินแดง กทม. ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกาย “ลุงซาเล้ง” จนต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. - 10 เม.ย.นี้ เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา ประวัติการต้องโทษ และอื่นๆ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กายและจิตใจเท่านั้น โดยปฏิเสธข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.เวลากลางคืน ขณะที่นายนราธร หรือจ๊อด ผู้ต้องหาขี่จักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวนทางมาและเกิดเฉี่ยวชนกับรถสามล้อซาเล้งภายในซอยชานเมือง 2 ถ.ประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง ที่นายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี อาชีพเก็บของเก่าขี่ผ่านมา เป็นเหตุให้จักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาขี่ล้มลง จากนั้นนายจรูญมาดูรถซาเล้งซึ่งไม่เสียหาย จึงขี่รถซาเล้งช้าๆ ต่อไป
ขณะที่นายนราธรมีอาการโกรธแค้นเดินตามมาเตะนายจรูญบริเวณหน้าอกอย่างแรง 1 ครั้ง และชกที่ใบหน้าอีก 1 ครั้ง จนนายจรูญตกจากรถลงไปนอนบนถนน มีแผลแตกบริเวณหางคิ้วขวาแล้วจะเข้ามาทำร้ายซ้ำอีก แต่มีพลเมืองดีมาห้ามไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจะนำร่างนายจรูญไปรักษาที่ รพ.ราชวิถี ส่วนผู้ต้องหาถูกพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจนำตัวไปผัดฟ้องฝากขังต่อศาลแขวงพระนครเหนือ และได้รับการปล่อยชั่วคราว
ส่วนนายจรูญ หลังจากออกจาก รพ.ราชวิถี ก็กลับมาพักฟื้นรักษาตัวต่อที่บ้าน แต่อาการกลับทรุดหนักมีอาการไข้ แผลกดทับ ไม่สามารถลุกเดินได้ตามปกติ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ญาติต้องนำตัวไปรักษาอีกครั้งที่ รพ.ราชวิถี และเสียชีวิตเมื่อเวลา 21.30 น.คืนวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีเพิ่มฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 โดยผู้ต้องหาได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดภายในซอยชานเมือง 2 ถ.ประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง กทม.
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมา น.ส.ศรีสมร หรือเมย์ คนกล้า อายุ 23 ปี ภรรยาของนายนราธร ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการสอบสวน โดยศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นายนราธรประกันตัวไปโดยตีราคาประกัน 180,000 บาท มิได้กำหนดเงื่อนไขใด
ภายหลังทนายความของนายนราธร หรือจ๊อด กล่าวว่า จากข้อหาที่ถูกแจ้งเพิ่มเติม หากข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีความผิดก็ต้องรับผิดชอบ ทุกอย่างเกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ แต่ทำไปแล้วก็ต้องรับผิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้ตกลงเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียหาย แต่เมื่อมีกรณีเสียชีวิตก็ต้องเยียวยามากขึ้น จากนี้ตนก็จะอธิบายข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้นายนราธรได้เข้าใจ
“ทุกอย่างจากนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อมีการกระทำผิดก็ต้องรับผิด ไม่ว่าข้อกฎหมายจะเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตจะมาจากการถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่นั้น เราคงไปมองเฉพาะในข้อกฎหมายว่าจะมีหนทางสู้คดีอย่างเดียวก็ไม่ได้ ยืนยันว่าจะต้องรับผิดชอบ ส่วนการเยียวยาต่างๆ ข้อเท็จจริงก็จะปรากฏในชั้นศาล คนเสียชีวิตทั้งคน เราต้องดูแลอยู่แล้ว”
ขณะที่หลังได้รับการปล่อยชั่วคราว นายนราธร หรือจ๊อด เดินออกมาด้วยมีใบหน้าเคร่งเครียด และไม่ยอมตอบคำถามสื่อมวลชน พร้อมยกมือปาดใบหน้า 2 ครั้ง ก่อนจะขึ้นรถยนต์กลับไปทันทีพร้อมแฟนสาวและทนายความ
ขณะที่ในวันนี้ น.ส.ศรีสมร หรือเมย์ เดินทางมาเยี่ยมสามีที่ศาล มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก หลังจากอดหลับอดนอนมาตลอดทั้งคืน โดยเมย์เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ทราบข่าวตอนเย็นว่าลุงอาการไม่ดีก็ไปเยี่ยมพร้อมนายจ๊อด แฟนหนุ่ม เมื่อไปถึงที่ รพ.ราชวิถี ไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้เพราะหมดเวลาเยี่ยม และทราบว่าอาการลุงไม่ดี จนกระทั่งลุงเสียชีวิตตอน 21.00 น.เศษ และรู้สึกเสียใจมาก ตลอดเวลาที่ลุงเข้าโรงพยาบาล แฟนก็ไปเยี่ยมหลายครั้ง ไม่ได้ทอดทิ้งตามที่สังคมโซเซียลฯ โจมตี หลังจากที่ลุงเสียชีวิตแล้วทางพนักงานสอบสวนได้โทร.มาบอกว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อจ๊อดซึ่งจ๊อดก็เข้าไปพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และไม่คิดจะหลบหนี
ตอนที่จ๊อดทราบว่าลุงเสียชีวิตแล้ว เขามีความรู้สึกแย่มากๆ และเสียใจ ตั้งแต่ตอนแรกที่กระทำลุงจรูญแล้ว เมื่อได้รับการประกันตัวก็จะไปร่วมงานศพลุงที่ จ.พระนครศรีอยุธยาด้วย
“หลังจากนี้ทนายความจะเดินไปพูดคุยเกี่ยวกับการเยียวยา ซึ่งแฟนมีความตั้งใจว่าจะบวชให้แก่ผู้เสียชีวิต แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ส่วนการเยียวยาก็จะต้องคุยกับญาติผู้เสียชีวิตก่อน” แฟนสาวกล่าว