MGR Online - วัยรุ่นกระทืบปู่ซาเล้งรับโมโห เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหยุด สำนึกผิด พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย เข้าขอขมาญาติ-ประวัติเคยฆ่าคนตอนอายุ 13 ปี ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย
จากรณีเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” ได้โพสต์คลิปวิดีโอชายวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์เฉี่ยวชนเข้ากับรถสามล้อเครื่อง (ซาเล้ง) ขณะสวนทางที่มีชายชราเป็นผู้ขับขี่ จนจักรยานยนต์เสียหลักล้มลง และลงไปทำร้ายร่างกายชายชราคนดังกล่าว เป็นเหตุให้ตกจากรถซาเล้งหัวกระแทกพื้น นอนสลบแน่นิ่งไปชั่วขณะ จึงนำตัวส่ง รพ.ราชวิถี เหตุเกิดภายในซอยชานเมือง 2 แขวงและเขตดินแดง กทม. พื้นที่ สน.ห้วยขวาง โดยคลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางและเป็นที่สนใจของประชาชน
ความคืบหน้าวันนี้ (15 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง แถลงข่าวกรณีนายนราธร หรือจ๊อด โสดติยัง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 471/244 ซอยสุทธิพร แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี อาชีพเก็บของเก่า
พ.ต.อ.กัมพลกล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. เวลา 16.50 น. ขณะที่นายจรูญกำลังถีบรถซาเล้งมาถึงกลางซอยชานเมือง 2 นายนราธร ผู้ต้องหาได้ขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวนทางมาและเฉี่ยวชนกับรถซาเล้งเป็นเหตุให้จักรยานยนต์ของนายนราธรล้มลงซึ่ง นายจรูญหยุดรถดูเห็นว่าไม่น่ามีอะไร เพราะรถซาเล้งไม่ได้เสียหาย จึงค่อยถีบรถต่อไปช้าๆ แต่นายนราธรวิ่งตามมาใช้เท้าเตะเข้าไปที่ลำตัว และชกใบหน้านายจรูญจนตกหล่นลงไปนอนกับพื้น จากนั้นนายนราธรจะเข้าไปทำร่ายร่างกายซ้ำ แต่พลเมืองดีได้เข้ามาห้ามไว้ทัน เป็นเหตุให้นายจรูญนอนสลบแน่นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำตัวส่ง รพ.ราชวิถี บาดเจ็บบริเวณหางคิ้วขวาเย็บ 10 เข็ม กระทั่งวันที่ 15 มี.ค. ทางนายนราธร ผู้ต้องหาทนแรงกดดันไม่ไหวได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง
จากสอบสวนนายนราธรให้การรับสารภาพว่า ระหว่างเกิดเหตุโมโหนายจรูญมากที่ชนแล้วหนี เรียกเท่าไหร่ก็ไม่หยุด ส่วนที่มีภาพปรากฏว่าตนเล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด นอกจากนี้ ตนได้ขอขมาญาติผู้เสียหาย และยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด พร้อมเข้าไปกราบขอขมาผู้เสียหายอีกครั้ง หลังเกิดเหตุยอมรับว่าได้ไปดื่มเบียร์
จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุเมื่อปี 2553 คดีทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายพื้นที่ สน.ดินแดง และเมื่อปี 2558 คดีทำร้ายผู้อื่นพื้นที่ สน.ห้วยขวาง จนมาเกิดเหตุดังกล่าว จากการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ไม่พบมีสารเสพยาเสพติด เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้ดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ