MGR Online - ยุทธการ x-ray outlaw foreigner ครั้งที่ 5 ปิดล้อมตรวจค้นแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติผิวสี สามารถจับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ 123 คน
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 23 มี.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พร้อมตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191, หน่วยอรินทราช 26, หน่วยรบสยบไพรี, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ ตำรวจ สน.พญาไท บูรณาการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จำนวน 108 จุด ทั่วประเทศ ตามยุทธการ x-ray outlaw foreigner ครั้งที่ 5 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 123 ราย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยว่า ยุทธการดังกล่าวเป็นการร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ในการกวาดล้างตรวจค้นแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ ที่อาจแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศ เช่น กลุ่มเครือข่ายปลอมบัตรเครดิต, กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน, กลุ่มเครือข่ายผลิตและปลอมบัตรเครดิต, กลุ่มคนหลอกลวงนำเพชรปลอมมาจำหน่าย และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า โดยผลการกวาดล้าง สามารถจับกุมผู้กระทำผิดทั่วประเทศ จำนวน 123 คน แบ่งเป็น ฐานความผิดข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาต” จำนวน 17 ราย สัญชาติอินเดีย 9 ราย กัมพูชา 2 ราย ปากีสถาน 2 ราย จีน 1 ราย เมียนมา 1 ราย เคนยา 1 ราย และ อียิปต์ 1 ราย จากการตรวจสอบ พบว่า ในนี้มี 5 ราย ที่อยู่ในประเทศมากกว่า 2 ปี คือ นางยู กวง อายุ 38 ปี ชาวจีน อยู่ จ.เชียงราย อยู่เกิน 12 ปี, นายโกมาล ดีพ อายุ 24 ปี ชาวอินเดีย อยู่ จ.ชลบุรี อยู่เกิน 3 ปี, นายอามานดีพ ซิงส์ อายุ 27 ปี ชาวอินเดีย อยู่ จ.ชลบุรี อยู่เกิน 2 ปี, นายวิเรนดรา วาเดฟ ชาวอินเดีย อายุ 35 ปี อยู่ จ.กรุงเทพฯ อยู่เกิน 2 ปี และนายฮาน โซพี ชาวกัมพูชา อยู่ จ.สระแก้ว อยู่เกิน 2 ปี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า และจับกุมข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต" จำนวน 91 ราย สัญชาติเมียนมา 62 ราย, ลาว 14 ราย, กัมพูชา 4 ราย, เวียดนาม 3 ราย, อินเดีย 3 ราย ปากีสถาน 3 ราย, เบลเยียม 1 ราย, และออสเตรเลีย 1 ราย และจับกุมข้อหาอื่นๆ อีก 15 ราย สัญชาติเวียดนาม 5 ราย, เมียนมา 3 ราย อินเดีย 2 ราย, อังกฤษ 2 ราย, ไทย 2 ราย, และฝรังเศส 1 ราย จากการตรวจสอบครั้งนี้ได้ทำการตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 108 เป้าหมาย แบ่งเป็นสถานศึกษา 49 เป้าหมาย และบ้านพัก 59 เป้าหมาย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ในส่วนของสถานศึกษาที่ชาวต่างชาติเข้ามายื่นขอวีซ่าอยู่ต่อประเภท non-ed ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่จะแฝงตัวมาก่ออาชญากรรม ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีแนวทางปฏิบัติร่วมกับสถานศึกษา ให้ขาดเรียนได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจตารางเรียน หากพบว่าขาดเรียนโดยไม่มีเหตุจำเป็น และไม่มีการบอกลากับทางโรงเรียน จะดำเนินการยกเลิกวีซ่าให้พ้นจากสภาพการเป็นนักเรียน ซึ่งในเดือน มี.ค. ปีนี้ มีการยกเลิกไปแล้วจำนวน 4 ราย และหากพบว่าโรงเรียนใดมีการปล่อยปละละเลยในการตรวจสอบชาวต่างชาติ จะถือว่ามีความผิดข้อหาให้ที่พักพิงต่อบุคคลต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
รวมยุทธการทั้ง 5 ครั้ง ตรวจค้นเป้าหมาย 2346 เป้าหมาย และ จับกุมผู้กระทำผิดได้ 490 คน