MGR Online - อาจารย์ ม.เกษตรศาสตร์ ทีมวิจัยหน้ากากป้องกันสารพิษ แจ้งความกลับเจ้าหน้าที่สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก ฐานแจ้งความเท็จ และเรียกรับสินบน หลังถูกกล่าวหาใช้ใบรับรองมาตรฐานปลอม ยันคณะได้ใบรับรองจากสถาบันทดสอบที่เป็นมาตรฐานสากล
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์วิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ทีมงานวิจัยรวม 4 คน พร้อมด้วยนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุรจิต ชะระ สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังคณะวิจัยถูก พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก แจ้งความดำเนินคดีกล่าวหาว่าเอกสารใบรับรองมาตรฐานหน้ากากกันสารพิษที่ทางคณะฯ ทำการวิจัยเป็นของปลอม นอกจากนี้ยังแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกลับต่อ พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ และ พ.อ.ก้อง ชัยณรงค์ เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก ในข้อหาแจ้งความเท็จ พร้อมนำเอกสารหลักฐานงานวิจัยทั้งหมดมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบการพิจารณาคดี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก พร้อมคณะ เข้าพบ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป.เพื่อเอาผิดต่อนักวิจัยโครงการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษ วงเงินงบประมาณการดำเนินโครงการ 3.8 ล้านบาท หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อพิรุธในการออกใบรับรองมาตรฐานงานวิจัยดังกล่าว
โดยนายอนันต์ชัยกล่าวว่า วันนี้ได้พาคณะวิจัยโครงการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกทางสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก กล่าวหาและแจ้งความต่อกองปราบปรามว่าทางคณะฯ ได้นำใบรับรองงานวิจัยปลอมมาใช้ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยทางคณะยืนยันว่าใบรับรองที่ทางคณะนำมาใช้นั้นเป็นเอกสารรับรองจากสถาบันทดสอบที่เป็นมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติจากสาธารณรัฐเช็ก 1 ใน 5 สถาบันที่ได้มาตรฐานในการทดสอบคุณสมบัติหน้ากากกันสารพิษ
นายอนันต์ชัยกล่าวต่อว่า ในส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าทำให้ทางกองทัพได้รับความเสียหายมูลค่า 150 ล้านบาท นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากทางคณะฯ ได้งบประมาณเพียง 3.8 ล้านบาท เป็นค่าดำเนินงานวิจัยเท่านั้น ส่วนเงินจำนวน 150 ล้านบาท เป็นงบในการผลิตที่ยังไม่ได้มีการผลิตหน้ากากกันสารพิษแต่อย่างใด ถือว่ายังไม่ได้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ถ้าโครงการดังกล่าวสามารถผลิตหน้ากากได้จริงจะทำให้ประเทศได้รับผลประโยชน์อย่างมากเพราะราคาถูกกว่าการสั่งซื้อจากต่างประเทศ โดยต้นทุนในการผลิตเพียง 8,000 บาทต่อ 1 ชิ้น ส่วนราคาสั่งซื้อนั้นสูงถึง 20,000 บาทต่อ 1 ชิ้น
ด้าน รศ.ดร.วีรชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ทางคณะฯยังถูกทางเจ้าหน้าที่ทหารกล่าวหาว่าหน้ากากต้นแบบทางคณะฯ ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบและผลิตเอง แต่กลับไปซื้อหน้ากากจากต่างประเทศมา ตนขอปฏิเสธและยืนยันว่าทางคณะวิจัยได้ผลิตเองทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ, ทำแม่พิมพ์, ผลิตหน้ากาก และการทดสอบในห้องรมแก๊ส โดยทั้งหมดมีภาพถ่ายหลักฐานยืนยันทั้งหมด อีกทั้งใบรับรองจากสถาบันต่างประเทศนั้นก็ยืนยันว่าได้มาตรฐาน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำคณะวิจัยทั้ง 4 คน พร้อมตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ทางคณะฯ นำมามอบให้ ก่อนที่จะเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป