MGR Online - อธิบดีอัยการภาค 7 ตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดี “เสี่ยเปรมชัย” ล่าเสือดำ หลังอัยการสูงสุดส่งทีมโฆษกอัยการลงพื้นที่รายงานคดีโดยตรง กำชับสั่งคดีรวดเร็ว โปร่งใส
วันนี้ (13 มี.ค.) นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ลงพื้นที่ร่วมกับนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีสำนักงานอัยการภาค 7 เพื่อรับสำนวนการสอบสวนคดีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสำนวนคดีอาญาของ สภ.ทองผาภูมิ ระหว่างนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก กล่าวหานายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน), นายยงค์ โดดเครือ, นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 1-4 โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คนว่าร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่า อันได้มา โดยการกระทำผิดกฎหมาย, ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันสมควร รวม 9 ข้อหา ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ให้การปฏิเสธ โดยมีนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีสำนักงานอัยการภาค 7 เป็นผู้รับสำนวนพร้อมร่วมกันเเถลงข่าว
นายธรัมพ์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนพร้อมความเห็นเสนอให้สั่งฟ้องนายเปรมชัย ผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 8 ข้อหา ส่วนข้อหาที่ 9 ที่เป็นข้อหาพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากอาวุธปืนของกลาง เป็นของนายเปรมชัยที่ได้รับอนุญาตให้มีไว้ครอบครองโดยชอบกฎหมาย ส่วนความผิดข้อหาร่วมกันกระทำอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเห็นว่าการกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวนเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 2-4 ใน 9 ข้อกล่าวหา
นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีสำนักงานอัยการภาค 7 กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม ทั้งสื่อมวลชนและกลุ่มองค์กรด้านการคุ้มครองพิทักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ ได้ติดตามการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นคดีสำคัญ เพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปโดนรอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พร้อมด้วยนายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ, พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี และนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นคณะทำงานซึ่งเมื่อคณะทำงานพิจารณาและมีความเห็นเสนอตนและมีคำสั่งทางคดีเรียบร้อยแล้ว จะได้มีการแถลงความคืบหน้าคดีนี้ให้ทราบต่อไป
นายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด มีความห่วงใยเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ประชาชนให้ความสนใจ จึงสั่งการให้ทีมโฆษกลงพื้นที่ประสานงานกับทางสำนักงานอัยการภาค 7 และอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อให้ข่าวกับประชาชนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สังคมได้เข้าใจภารกิจของสำนักงานอัยการสูงสุด
เมื่อถามว่าทางอัยการสูงสุดได้กำชับเรื่องคดีนี้อย่างไรบ้าง นายประยุทธกล่าวว่า อัยการสูงสุดไม่ได้กำชับเรื่องในสำนวนคดี เนื่องจากคดีนี้นางสมศรี อธิบดีสำนักงานอัยการภาค 7 ลงมาดูคดีนี้ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว แต่อัยการสูงสุดจะเน้นเรื่องการทำคดีด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และให้รายงานความคืบหน้าให้อัยการสูงสุดทราบโดยตรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวนไม่จำเป็นต้องส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายมาพร้อมกับสำนวน เนื่องจากผู้ต้องหาอยู่ระหว่างฝากขังของศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/2561 โดยจะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 มีนาคมนี้