MGR Online - ผช.เลขาฯ ป.ป.ท.เผยเตรียมเสนอการทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 3 จังหวัด บึงกาฬ-หนองคาย-ตราด เข้าบอร์ด ป.ป.ท.ขออนุมัติไต่สวน คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือน ส่วน “น้องแบม” นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน ม.มหาสารคาม ผู้เปิดโปงอยู่ในโปรแกรมคุ้มครองพยานแล้ว
สืบเนื่องจากมีผู้มาร้องเรียนที่ศูนย์ร้องเรียน กอ.รมน.กองทัพบก จ.ขอนแก่น ถึงเรื่องการทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จากนั้นประสานให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แล้วสั่งการให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ท.) ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำชาวบ้านที่มาร่วมอบรมศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกว่า 90 ราย พบว่าทั้งหมดถูกนำเอาสำเนาบัตรประชาชนไปลงทะเบียนรายชื่อในบัญชีเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง คนละ 2,000-3,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 6.9 ล้านบาท และพบข้อมูลการทำความผิดชัดเจน ซึ่งจะดำเนินการขยายผลตรวจสอบทั่วประเทศทั้ง 37 ศูนย์ เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยบอร์ด ป.ป.ท.อนุมัติตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือนในการตรวจสอบแสะสรุปภาพรวมดังกล่าว กระทั่งล่าสุดพบข้อมูลการกระทำผิดแล้ว 24 จังหวัดทั่วประเทศ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ล่าสุด วันนี้ (6 มี.ค.) พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท.เผยว่า จากจังหวัดเป้าหมายหลัก ยอดงบเกิน 1 ล้านบาท จำนวน 37 จังหวัด ขณะนี้ตัวเลขที่พบศูนย์ฯ ทุจริตยังอยู่ที่ 24 จังหวัด ส่วนที่เหลืออีก 13 จังหวัด ยังรอพยานหลักฐาน และความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลอยู่ ส่วนการนำเรื่องเข้าคณะกรรมการ หรือบอร์ด ป.ป.ท. เพื่อขออนุมัติไต่สวนนั้น เลื่อนไปนำเข้าวันที่ 8 มี.ค. เวลา 10.00 น. โดยคาดว่าจะมี 3 จังหวัด คือ จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย และจ.ตราด ส่วนจังหวัดอื่นๆ จะทยอยนำเข้าบอร์ดเพื่อขออนุมัติไต่สวนตามขั้นตอน
“ส่วนกรณี น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ผู้ออกมาเปิดโปงขบวนการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น จุดประเด็นให้มีการตรวจสอบศูนย์ฯ อื่นๆ ทั่วประเทศ ออกมาเปิดเผยว่า อาจารย์ไม่ใส่ใจรับฟังข้อมูล หาว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ หนำซ้ำยังสั่งให้กราบขอโทษเจ้าหน้าที่ศูนย์ นอกจากนี้ยังถูกอาจารย์ทุบหลัง 2 ครั้ง เรื่องดังกล่าวทราบว่าขณะนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ เป็นเรื่องภายในหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการ แต่น้องทั้ง 2 คนยังอยู่ในโปรแกรมคุ้มครองพยานอยู่ ไม่น่าเป็นห่วงอะไร” พ.ต.ท.วันนพกล่าว
ด้าน พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รรท.เลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ลงพื้นที่เก็บข้อมูล ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน เข้าให้ข้อมูล และแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐนอกเหนือจากศูนย์ฯ เข้าไปเกี่ยวขัองกับการกระทำดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบขั้นกรองข้อมูล
ทั้งนี้ ฝากไปยังประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.สามารถติดต่อเข้าให้ข้อมูลและแจ้งเบาะแสได้ตลอด เจ้าหน้าที่จะปกปิดข้อมูลผู้ให้ข้อมูลเป็นความลับ เบื้องต้นมีหลักฐานและข้อมูลบางส่วนว่าพบเจ้าหน้าที่นอกศูนย์ฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม สำหรับรูปแบบการทุจริตที่มีการนำรายชื่อบุคคลอื่นเข้าไปรับเงินแทนกัน ไม่ใช่สิ่งใหม่แต่เป็นลักษณะการกระทำความผิดเดิมๆ ในหลายกรณีที่มีการทุจริตเงินงบประมาณของรัฐ