xs
xsm
sm
md
lg

จับหนุ่มปักษ์ใต์ลักลอบขนกัญชากว่า 1 ตัน รับค่าจ้างขน 1 แสนบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตร.ทางหลวงร่วมกองปราบฯ จับ 2 หนุ่มชาวปักษ์ใต์ลักลอบขนกัญชากว่า 1 ตัน หน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงปะเหลียน ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง สารภาพรับค่าจ้างขน 1 แสนบาท

วันนี้ (22 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง ผกก.7 บก.ทล. พ.ต.ท.มานะ พึ่งมี สว. ส.ทล.2 กก.7 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ ส.ทล.2 กก.7 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ บก.ป. และเจ้าหน้าที่ บช.ปส. ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายทศนิยม ตรีสุวรรณ หรือยิม อายุ 30 ปี ชาว จ.พัทลุง และนายอดิเรก เพ็ชรคง หรือจีน อายุ 30 ปี ชาว จ.สงขลา พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง น้ำหนัก 1,090 กก. และรถกระบะเสริมหลังคา ยี่ห้อมาสด้า รุ่นไฟเตอร์ สีเทา ทะเบียน (ปลอม) ถห 6391 กรุงเทพมหานคร จับกุม บริเวณหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงปะเหลียน ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

พ.ต.อ.ภาคินกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนกัญชาจำนวนมาก โดยใช้เส้นทาง ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวัง กระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 20 ก.พ. ขณะที่ตำรวจทางหลวงและตำรวจกองปราบปรามได้ออกตรวจตราพื้นที่ก็พบรถกระบะคันดังกล่าวผ่านมาบริเวณจุดบริการประชาชน ท่าทางมีพิรุธจึงขอตรวจค้น โดยมีนายทศนิยมเป็นคนขับ และนายอดิเรกนั่งข้างอยู่ในท่าทีมีพิรุธ ระหว่างการตรวจสอบตำรวจได้กลิ่นลักษณะคล้ายยาเสพติดโชยมาจากด้านท้ายกระบะ จึงได้ทำการขอตรวจค้นพบของกลางทั้งหมดบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย 25 กระสอบ

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่รับสารภาพว่าไม่มีงานประจำทำ เนื่องจากเพิ่งพ้นโทษคดีชิงทรัพย์ประมาณ 6-7 เดือน จึงมารับหน้าที่ขนกัญชาโดยได้ค่าจ้างในการขน 1 แสนบาท ทำครั้งแรก ในส่วนของยาเสพติดดังกล่าวรับมาจากเอเยนต์ที่ จ.บึงกาฬ โดยมีนายเอ (นามสมมติ) เป็นผู้สั่งการทางโทรศัพท์จะคอยแจ้งเส้นทางเป็นระยะเพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจของตำรวจ มีปลายทางที่ จ.สตูล แต่ถูกจับกุมก่อน

มีรายงานว่า สำหรับขบวนการดังกล่าวมีพฤติกรรมการลักลอบมีการขนย้ายมาจากภาคอีสานลงสู่ภาคใต้ เพื่อนำออกนอกไปประเทศมาเลเซีย สู่ประเทศที่ 3 โดยจะมีการนำรถยนต์และป้ายทะเบียนปลอมมาคอยเปลี่ยน รวมถึงเส้นทางการลำเลียงจะมีกลุ่มนำต้นทาง ส่วนใหญ่จะเลี่ยงใช้เส้นทางหลักไปเส้นที่เปลี่ยว และเวลากลางคืน เพื่อหลบหนีการถูกจับกุม ทั้งนี้ หากกัญชาดังกล่าวหลุดลอดไปถึงปลายทางจะมีมูลค่าสูงถึง 50 ล้านบาท เบื้องต้นแจ้งหน้าที่ข้อหาร่วมกันมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมขยายผลจับกุมเครือข่ายต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น