MGR Online - ผบก.กองปราบปราม วอนสื่ออย่าลงข่าวเกินจริง ยันยังไม่มีการสรุปหวย 30 ล้านเป็นของใคร-ออกหมายจับใคร งดให้สื่อสัมภาษณ์ประเด็นหวยอลเวง
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) แถลงถึงความคืบหน้าของคดีหวย 30 ล้านบาทว่า สำหรับคดีหวยเจ้าปัญหา 30 ล้านบาทที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้เชื่อว่าประชาชนติดตามและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เมื่อคืนกระทั่งตอนเช้านี้มีสื่อบางช่องทางสรุปข่าวในประเด็นที่ผิด ตนเห็นแล้วไม่สบายใจ มีการลงพาดหัวข่าวว่าทางกองปราบปรามได้สรุปแล้วว่าหวยเป็นของใคร
ขออนุญาตชี้แจงว่า ในเวลานี้คณะการทำงานกองปราบปรามและกองบังคับการสอบสวนกลาง ที่มี พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.เป็นหัวหน้าคณะทำงานนั้น ทุกส่วนยังคงทำงานอย่างหนักแม้กระทั่งวันนี้ก็ยังมีการนัดหมายเพื่อประชุมสรุปพยานหลักฐานที่แต่ละภาคส่วนไปหามาไปสอบสวนมา
“ผมไม่เข้าใจว่าบางสื่อเอาไปสรุปได้อย่างไร ขอยืนยันว่าในขณะนี้ยังไม่มีการสรุปผลใดๆ ทั้งสิ้นว่าใครเป็นเจ้าของหวย นอกจากนั้นยังมีการที่มีการพาดพิงว่าจะมีการออกหมายจับพร้อมกับตำรวจหนึ่งนายขออนุญาตชี้แจงว่ายังไม่มีข้อสรุปเช่นเดียวกัน”
“อย่างไรก็ตาม อยากเรียนพี่น้องสื่อมวลชนว่าที่ผ่านมาผมเป็นหัวหน้าองค์กรของกองปราบปราม ผมให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของท่านมาตลอด แต่เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ผมและหน่วยงานของผมเสียชื่อเสียง ต่อไปนี้ในเรื่องนี้คงต้องเว้นระยะกับพวกท่านสักพักในจุดที่เหมาะสมมากกว่านี้ นอกจากนี้ เมื่อวานบางฉบับมีการลงข่าวว่าผมได้มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในเรื่องของคดีหวยซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะผมไปสัมมนาอยู่ที่ศูนย์ราชการทั้งวันซึ่งไม่มีใครได้พบผมเลย”
พล.ต.ต.ไมตรีกล่าวต่อว่า ต่อไปนี้ขออย่าเอาชื่อตนไปอ้างหรือเอาหน่วยงานตนไปอ้างว่ามีการเปิดเผยในเรื่องของคดี เพราะรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ หากตนมาพูดในเชิงแถลงถือว่าตนรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง อย่าไปลงอะไรที่เกินความเป็นจริงเพราะสังคมกำลังจับตามองอยู่ อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้เน้นย้ำมาตลอด อะไรก็แล้วแต่ที่จะเป็นผลต่อรูปคดีเราเปิดเผยไม่ได้ อย่าลืมคดีนี้เป็นคดีที่มีคู่กรณีทั้งสองฝ่าย สรุปอะไรไปหรือพูดอะไรไปจะมีผลกระทบต่อรูปคดีทั้งสองฝ่าย
ผบก.ป.กล่าวต่อว่า ทางกองปราบปรามได้ไปรับสำนวนคดีจากตำรวจภูธรภาค 7 ทั้งสองคดี เรื่องแรก คือ เรื่องทางครูปรีชาไปแจ้งความร้องทุกข์ว่า ร.ต.ท.จรูญ ยักยอกของตกหายหรือรับของโจร ส่วนเรื่องที่ 2 คือ ร.ต.ท.จรูญ แจ้งความกล่าวหาครูปรีชาว่าแจ้งความเท็จ ตอนตนไปรับสำนวนมาด้วยตนเองนั้นสำนวนในคดีที่ครูปรีชากล่าวหา ร.ต.ท.จรูญ เอกสารเยอะมาก 4-5 แฟ้ม ในขณะเดียวกัน สำนวนที่ ร.ต.ท.จรูญกล่าวหาครูปรีชาว่าแจ้งความเท็จแทบไม่ได้ทำอะไรไว้เลย
พล.ต.ต.ไมตรีกล่าวต่อว่า บทสรุปของทั้ง 2 เรื่อง นโยบายของกองบัญชาการสอบสวนกลางต้องเป็นบทสรุปที่พร้อมกันทั้ง 2 เรื่อง บางคนอาจจะมองว่าเราทำงานล่าช้า เราทำงานกันอย่างหนักทุกวัน อยากเรียนว่าท้ายที่สุดบทสรุปของเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ทั้งสองคดีจะต้องมีบทสรุปที่พร้อมกัน มีพยานหลักฐานอะไรมารองรับและยืนยันโดยปราศจากข้อสงสัย
“ขออนุญาตเรียนพี่น้องสื่อมวลชนว่าอย่าเพิ่งนำเสนอข่าวใดๆ ที่มันทำให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ในส่วนของเรื่องหวย 30 ล้าน ต่อไปนี้ผมขอไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ และในส่วนของประเด็นต่างๆ ให้ไป พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. หัวหน้าคณะทำงานเท่านั้น” พล.ต.ต.ไมตรีกล่าว


