MGR Online - “ยงยุทธ ติยะไพรัช” อดีต ส.ส.พลังประชาชน ยื่นฟ้อง “ชูวิทย์-ช่อง 3-ไทยรัฐทีวี” หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีจัดรายการทีวีพาดพิงให้เข้าใจว่าเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด เอี่ยวค้ามนุษย์และฟอกเงิน
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (5 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา และ ส.ส.พรรคพลังประชาชน มอบอำนาจให้นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ มายื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายภาษิต หรือไก่ อภิญญาวาท, น.ส.พิชญทัฬห์ หรือไบรท์ จันทร์พุฒ ทั้งสามร่วมเป็นผู้ดำเนินรายการ “ชูวิทย์มีเรื่องเล่า” ออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่อง 33 HD และบริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลของช่อง 3 เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.วาด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1)
และอีกสำนวนยื่นฟ้องนายชูวิทย์, น.ส.อรชพร หรือมิ้นท์ ชลาดล ผู้ดำเนินรายการ “ชูวิทย์ตีแสกหน้า” ออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่องไทยรัฐทีวี และบริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลช่องไทยรัฐทีวี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานเดียวกัน จากกรณีที่มีการกล่าวพาดพิงให้เข้าใจว่านายยงยุทธเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด หรือสิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ การฟอกเงิน หรือการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
ภายหลังยื่นฟ้องศาลอาญา รับคำฟ้องสำนวนแรกไว้ในสารบบคดีหมายเลขดำ อ.356/2561 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ส่วนสำนวนที่ 2 เป็นคดีหมายเลขดำ อ.357/2561 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ทั้งนี้ นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความรับมอบอำนาจของนายยงยุทธ เปิดเผยว่า ที่นายยงยุทธนำคดีมายื่นฟ้องศาล เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเองที่ถูกกล่าวหาจากนายชูวิทย์กับพวกที่พูดในรายการที่ออกอากาศทั้งทางช่อง 33 HD และช่องไทยรัฐทีวี ทำให้ประชาชนเข้าใจว่านายยงยุทธเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด หรือสิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ การฟอกเงิน หรือการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความเท็จทำให้นายยงยุทธได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เพราะความจริงแล้วสโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด นายมิตติ ติยะไพรัช ลูกชายของนายยงยุทธได้ร่วมกับเพื่อนก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2552 นายยงยุทธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด แต่อย่างใด และนายยงยุทธไม่เคยร่วมกับบุคคลใดทำการฟอกเงินหรือปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
การฟ้องคดีต่อศาลก็เพื่อจะพิสูจน์ความจริงหากนายชูวิทย์มีหลักฐานว่านายยงยุทธเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินก็เอาหลักฐานมาพิสูจน์กันในศาล ไม่อยากให้พูดจาใส่ร้ายโดยไม่มีหลักฐาน เพราะทำให้คนเสียหายไปแล้วยากจะแก้ไขกลับคืนมา
นายอุดม ทนายความของนายยงยุทธกล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนอกจากจะฟ้องคดีอาญา 2 สำนวนแล้ว ในวันศุกร์ที่ 9 ก.พ.นี้ เวลา 11.00 น.เตรียมยื่นฟ้องคดีแพ่งจากการถูกละเมิดดังกล่าวอีก 2 สำนวนด้วยเช่นกัน เรียกค่าเสียหายสำนวนละ 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งจากการพูดคุยกับนายยงยุทธ สำหรับคดีที่ฟ้องยากที่จะไกล่เกลี่ย หรือถอนฟ้อง เพราะความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว จึงต้องการให้คดีเป็นบรรทัดฐานในการนำเสนอข้อมูลข่าวที่ต้องตรวจสอบถูกต้องและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ถูกกล่าวถึงด้วย โดยขอฝากเตือนให้ระมัดระวังการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องด้วย มิเช่นนั้นก็สุดท้ายแล้วสื่อมวลชนต้องถูกฟ้องคดี
