MGR Online - ทำแผนประกอบคำรับสารภาพหนุ่มวัย 30 ปี ฆ่าชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำสาวใหญ่ในร้านแว่นตาทวีพูน ย่านตลาดเคหะบางพลีเมืองใหม่ คนร้ายสารภาพซื้อมีดมาหวังข่มขู่แต่เหยื่อสู้จึงต้องฆ่า
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 61 พล.ต.ตธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง พร้อมด้วย ตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้คุมตัว นายชัยรัตน์ โพธิ์ทอง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.สุจินดา สิงขรโอฬารึก อายุ 50 ปี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 61 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ ภายในร้านแว่นตาทวีพูน ตั้งอยู่เลขที่ 201/178 ม.1 ตลาดเคหะบางพลีเมืองใหม่ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อมีดมาเพื่อข่มขู่ขณะชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ น.ส.สุจินดา ภายในร้านจำหน่ายแว่นดังกล่าว แต่เหยื่อต่อสู้จึงต้องฆ่า
ทั้งนี้ ตำรวจใช้เวลาในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 15 นาที แล้วรีบนำตัวขึ้นรถกลับ เนื่องจากมีไทยมุงเป็นจำนวนมากตะโกนด่าทอผู้ก่อเหตุ เกรงว่าจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์
ต่อมา นางลำเพย สิงขรโอฬารึก อายุ 78 ปี แม่ของ น.ส.สุจินดา ผู้เสียชีวิต พร้อมญาติ ได้เข้ามาทำพิธีอันเชิญดวงวิญญาณของ น.ส.สุจินดา ภายในร้านเกิดเหตุ เพื่อกลับบ้านเกิด จ.สุโขทัย
ด้าน นายไพบูลย์ สุนทรประเสริฐ ยุติธรรมจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า กรณีนี้ผู้เสียหายเสียชีวิตจากเหตุชิงทรัพย์ร้านจำหน่ายแว่นนั้น ทายาทจะได้รับความคุ้มครองและเยียวยาจากรัฐตาม พ.ร.บ. ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 โดยทายาทผู้เสียชีวิตมีสิทธิได้รับค่าตอบแทน ค่าจัดการศพ ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู และค่าตอบแทนความเสียหายอื่นที่คณะกรรมการเห็นสมควร การจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายเบื้องต้น ซึ่งตามกฎหมายแล้ว พนักงานสอบสวนจะออกบันทึกการแจ้งสิทธิให้ทายาทผู้เสียชีวิต การยื่นเป็นสิทธิของทายาทผู้เสียชีวิตว่าจะยื่นหรือไม่ โดยทายาทผู้เสียชีวิตสามารถยื่นคำขอได้ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสมุทรปราการ ภายใน 1 ปี นับจากวันเกิดเหตุ