รวบแล้วผู้ต้องหาฆ่าปาดคอชิงทรัพย์แท็กซี่ ซ.เอแบค

ตำรวจตามจับคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์คนขับแท็กซี่ หลังหลบหนีกบดานบ้านเกิดจันทบุรี พบดีเอ็นเอผู้ต้องหากับดีเอ็นเอที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุตรงกัน แต่ผู้ต้องหายังปฏิเสธเสียงแข็ง

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2560 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป.1) พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พร้อมตำรวจ สภ.บางบ่อ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายณัฐวุฒิ บวรวงศ์ดิลก อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ 10 ต.แก่งหางแมว อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 473/2560 ข้อหาฆ่าผู้อื่นและชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยจับกุมได้ที่บ้านพักใน จ.จันทบุรี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 60 ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายก่อเหตุฆ่าปาดคอ นายศักดิ์ชัย หรือ ท๊อป ประเสริฐสุข อายุ 30 ปี คนขับแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฉ 8215 กทม. ที่บริเวณกลางซอยนวมินทร์ 7 ถนนบางนา-กาเด้นท์ หมู่ 7 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถแท็กซี่ จากนั้นชุดสืบสวนจึงเร่งสืบสวนติดตาม จนกระทั่งพบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดและตำหนิรูปพรรณคนร้ายและได้มีการประชาสัมพันธ์รูปภาพผู้ต้องสงสัยตามสื่อต่างๆ จนกระทั่งมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่า พบบุคคลมีลักษณะคล้ายผู้ก่อเหตุ พักอาศัยอยู่ในเขตคลองเตย กทม.และมีอาชีพเป็นต้นหน เรือเดินพาณิชย์แห่งหนึ่งที่จอดลอยลำอยู่แถวพระรามที่ 3 จึงเข้าติดตามแต่คนร้ายไหวตัวทันได้ลาออกจากบริษัทที่ทำงาน ก่อนหลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านเกิดใน จ.จันทบุรี และเตรียมบวชเพื่อหลบหนี จึงประสานตำรวจ สภ.แก่งหางแมว เข้าติดตามจับกุม

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป.1) กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่หลังจากดำเนินการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ของผู้ต้องหากับดีเอ็นเอ ที่เก็บได้จากวัตถุพยานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ มีผลตรวจตรงกัน รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ ตามเส้นทางตั้งแต่ผู้ต้องหา เรียกรถแท็กซี่ จนถึงกลับที่พักอาศัยในวันเกิดเหตุ โดยให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียดรอบคอบก่อนส่งสำนวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป