MGR Online - บช.น. สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนดาบตำรวจลุมพินี ยัดยารีดทรัพย์นักท่องเที่ยว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พบเจ้าตัวเคยถูกร้องเรียน จนถูกย้ายจากการทำหน้าที่ฝ่ายสืบสวนให้มาทำงานด้านจราจร
วันนี้ (30 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการจับกุม ดาบตำรวจ เชิดชาย ผู้ช่วยท้วม ผบ.หมู่งานจราจร สน.ลุมพินี พร้อมพวกอีก 1 คน ที่พยายามยัดยาแล้วรีดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จนถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและให้ออกจากราชการไว้ก่อน ว่า กรณีเรื่องดังกล่าวถือเป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคล ผู้บังคับบัญชาไม่ได้มีส่วนเข้าไปพัวพัน ในลักษณะทำเป็นขบวนการ หรือองค์กรอื่นเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ที่ผ่านมา พบว่า เจ้าตัวเคยถูกร้องเรียน และลงโทษจนถูกย้ายจากการทำหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทำงานเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติดให้มาทำงานด้านจราจร แต่ยังมีพฤติกรรมกระทำความผิดดังกล่าว ทาง พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 จึงได้สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ระดับรองสารวัตร จนถึงผู้กำกับการ สน.ลุมพินี ว่า ปล่อยปละละเลยหรือไม่
“ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้สั่งการให้ ทาง บช.น. กำชับการปฏิบัติของกองบังคับการต้นสังกัด หากพบว่ามีตำรวจที่พัวพันกับยาเสพติด หรือมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม ก็จะดำเนินการคาดโทษทันที เนื่องจากหากตรวจพบจะถูกดำเนินคดีอาญาพร้อมไล่ออกสถานเดียว เนื่องจากที่ผ่านมา ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นส่วนน้อยมากๆ คิดเป็น 1 - 2 เปอร์เซ็นต์ หากดูจากตำรวจทั้งประเทศกว่า 2 แสนคน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปกป้องตำรวจที่กระทำความผิดอย่างแน่นอน” ผบช.น. กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทาง สน.ลุมพินี ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ด.ต.เชิดชาย ผู้ช่วยท้วม ผบ.หมู่ จร.สน.ลุมพินี โดยมีระดับรอง สว.- ผกก.สน.ลุมพินี แล้วโดยสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนการพิจารณาข้อบกพร่องของผู้บังคับบัญชา ด.ต.เชิดชาย นั้น ได้สั่งการให้ทางคำสั่งกรมตำรวจที่ 1212 / 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ระดับ สว. ที่ดูแลงานจราจรของ ด.ต.เชิดชาย ให้ทาง ผกก.สน.ลุมพินี ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวให้ทาง สน.ลุมพินี หัวหน้างานที่เกี่ยวข้องชี้แจงกรณีดังกล่าวว่ามีข้อบกพร่องหรือไม่ หากมีการพิจารณาแล้วพบว่ามีข้อบกพร่อง ก็จะพิจารณาโทษทางวินัยอีกครั้ง
ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2561 เวลา 11.40 น. ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า มีกลุ่มชายเปิดห้องพักที่อาคารเดอะบูมอพาร์ตเมนต์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร มั่วสุมยาเสพติด จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบชาย 2 คน อยู่ให้ห้องพักดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ ด.ต.เชิดชาย ผู้ช่วยท้วม อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจผ่ายจราจร สน.ลุมพินี และ นายชาคริต ทีหลวย อายุ 37 ปี ภายในห้องที่เกิดเหตุพบยาไอซ์น้ำหนัก 0.5 กรัม, อาวุธปืนยี่ห้อ วอลเตอร์ พร้อมแม็กกาซีน ขนาด 0.38 จำนวน 1 กระบอก จำนวน 7 นัด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านฯ, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย” แก่ ด.ต.เชิดชาย และแจ้งข้อกล่าวหา “มีและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” แก่ นายชาคริต และต่อมาได้ นายแอนดรู ไลเลย์ อายุ 25 ปี ชาวแคนาดา ผู้เสียหายมาที่สน. และได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ แจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 นี้ คือ คนร้ายที่ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังและมีพฤติการณ์จะยัดยาเสพติดให้กับผู้แจ้ง แต่ผู้แจ้งได้หลบหนีไป จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป