MGR Online - ตั้งกรรมการสอบ “12 สถานบริการ” นครบาลแจงเข้าข่ายผิดกฎหมาย “บิ๊กหยม” ฮึ่ม หากผิดฟันไม่เลี้ยง สั่ง ดส.รายงานผลสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน
วันนี้ (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. ในฐานะรองประธาน คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการสั่งปิดสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่มีการกระทำผิดตามคำสั่ง คสช.ประจำปี 2561 ครั้งที่ 1/2561 กล่าวว่า ตามคำสั่ง คสช.ที่ 46 ให้สถานีตำรวจ (สน.) ที่จับกุมพิจารณาให้ปิด ผ่านขั้นจากกองบังคับการ แล้วเสร็จมาให้ บช.น.พิจารณา ที่มี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.เป็นประธาน ซึ่งในเอกสารของ 12 แห่ง ในขณะนี้สำนวนยังไม่สมบูรณ์ และจะมีการพิจารณาในวันที่ 30 ม.ค. เวลา 10.00 น. โดยมอบหมายให้ตนเป็นผู้พิจารณา
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้มีสถานบริการที่ทั้งหมดใน กทม.364 แห่ง และไม่มีใบอนุญาตอีก 3,000 กว่าแห่ง โดยสถานบริการอาบอบนวดพบมากสุดในพื้นที่ บก.น.1 ซึ่งที่ผ่านมาทาง ผบช.น.ได้เร่งรัดมาตลอด หากพื้นที่ไหนปล่อยปละละเลยมีความผิดแน่นอน
ขณะที่มีรายงานว่า 12 แห่ง ได้แก่ 1. ร้านแวมไพร์คาราโอเกะ 105 พื้นที่ สน.ปทุมวัน 2. ร้านเสเฮฮา พื้นที่สน.วังทองหลาง 3. ร้านเจี๊ยบคาราโอเกะ พื้นที่ สน.บางกอกน้อย 4. ร้านมอนติคาร์โล พื้นที่ สน.โชคชัย 5. ร้านบางกอกใหญ่บาร์ พื้นที่ สน.บางกอกน้อย 6. ร้าน DE-CREE48 พื้นที่ สน.บางยี่เรือ 7. ร้าน MORE พื้นที่ สน.บางยี่เรือ 8. ร้านคลับฟายเดย์ พื้นที่ สน.หลักสอง 9. ร้านเดอะฟิกบาร์ พื้นที่ สน.ประเวศ 10. ร้านน้องหนึ่งคาราโอเกะ พื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ 11. มูดดี้ส์ บาร์ พื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ 12. ร้านสุราบาร์พาร์ตี้ บายเมาสันติ พื้นที่ สน.ภาษีเจริญ ว่าจะเข้าข่ายถูกสั่งปิดหรือไม่ โดยจะเสนอเรื่องให้ทาง ผบช.น.ก่อนส่งให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้มีอำนาจในการสั่งปิดสถานบริการนั้นคือ ผบ.ตร. หรือรอง ผบ.ตร.ที่ได้รับการแต่งตั้ง เป็นผู้อนุมัติสั่งปิดสถานบริการดังกล่าว
ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่รับผิดชอบสถานบริการดังกล่าวทั้ง 12 แห่ง โดยให้ผู้บังคับการในพื้นที่รับผิดชอบเป็นหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวว่ามีข้อบกพร่องหรือปล่อยปละละเลยเพิกเฉยหรือไม่ ภายหลังจากที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบและจับกุมสถานบริการตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมา โดยให้ทราบผลการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน