MGR Online - อธิบดีอัยการต่างประเทศ ระบุอดีตนายกฯ “ยิ่งลักษณ์” หนีต่างประเทศเป็นคดีอาญา ไม่ใช่การเมือง ขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้แน่นอน แต่สุดท้ายต้องลุ้นการพิจารณาของประเทศปลายทาง
วันนี้ (9 ม.ค.) นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงขั้นตอนและความคืบหน้าการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 5 ปี โครงการจำนำข้าวว่า ตามที่มีภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในสื่อต่างๆว่าอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็เป็นข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย การจะยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้นั้นต้องชัดเจนเรื่องที่อยู่ในประเทศที่เราร้องขอ และเงื่อนไขการขอตามที่บัญญัติใน พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ที่เป็นคดีความผิดโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี, เป็นคดีอาญาความผิดทั้ง 2 ประเทศ และไม่ใช่เรื่องการทหารหรือการเมือง ซึ่งคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ชัดเจนว่าคดีตัดสินถึงที่สุดแล้วให้จำคุกและเป็นคดีอาญาผ่านกระบวนการพิจารณาทางศาลมาครบถ้วน ไม่ใช่คดีทางการทหารหรือการเมืองที่เข้างดเว้นการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งเป็นเงื่อนไขสากลปฏิบัติกัน โดยการติดตามตัวหลังที่ศาลฎีกาฯ ออกหมายจับเมื่อปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ก็ทราบว่ามีความพยายามในการเพิกถอนหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) และการประสานหน่วยงานอินเตอร์โปล หรือตำรวจสากล ออกหมายจับด้วย เพื่อเป็นข้อจำกัดของจำเลยให้หลบหนีได้ยากขึ้น ซึ่งขณะนี้การตรวจสอบข้อมูลจากทางโซเชียลมีเดียว่าอยู่ที่อังกฤษจริงหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่โดยตรงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพราะตามขั้นตอนกฎหมายการขอส่งผู้ร้ายแดน ตร.จะเป็นผู้ยืนยันข้อมูลที่อยู่ ที่พำนัก แล้วส่งมาให้อัยการเพื่อระบุในคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ประสานงานกลางตามกฎหมาย ลงนามและยื่นคำร้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศที่ดูแลภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดำเนินขั้นตอนต่อไปกับประเทศปลายทาง
อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศกล่าวอีกว่า เราจะนำข้อมูลจากโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการยืนยันข้อมูลมาใส่ในคำร้องแล้วรีบยื่นคำร้องไม่ได้ เพราะการยื่นคำร้องต้องแน่ใจว่าข้อมูลนั้นชัดเจนแล้วและถูกต้องตามกฎหมาย มิฉะนั้นหากส่งไปประเทศปลายทางก็อาจจะถูกปฏิเสธเพราะกรณีไม่เข้าเงื่อนไข โดยในกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นับตั้งแต่ที่ศาลออกหมายจับไว้เรายังไม่ได้ยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามไปยะงประเทศใดเลย ซึ่งทางตำรวจเองก็พยายามตรวจสอบข้อมูล แหล่งที่อยู่ ในส่วนอัยการเอง ตนในฐานะอธิบดีก็เป็นประธานคณะทำงานอัยการคุมเรื่องนี้เพราะ เป็นที่สนใจของประชาชน เช่นเดียวกับกรณีการติดตามตัวของนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่อัยการสั่งฟ้องคดีแล้วข้อหาขับรถประมาทชนตำรวจตาย ซึ่งคดีของนายวรยุทธ หากไปประเทศอังกฤษ การขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ทำได้แน่นอน เพราะชัดเจนว่าเป็นคดีอาญาซึ่งอังกฤษเองก็เคยขอไทยส่งผู้ร้ายข้ามแดนหญิงสาวก่อเหตุเมาขับรถชนคนตายในอังกฤษแล้วหนีมาเที่ยวในประเทศไทย ดังนั้นชัดเจนมากกว่าข้อหาขับรถประมาทชนคนตายเป็นคดีอาญาความผิดระหว่างสองประเทศที่ขอส่งตัวได้ ซึ่งกรณีของนายวรยุทธ คณะทำงานของอัยการก็ร่างคำร้องไว้ทั้ง 2 แบบแล้ว คือประเทศที่มีสนธิสัญญาต่อกัน กับประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาต่อกัน รอเพียงข้อมูลที่อยู่ที่พำนักในต่างแดนเท่านั้นมาบรรจุในคำร้อง หากมีข้อมูลอัยการก็ดำเนินการทำคำร้องเสร็จได้ทันทีและยื่นได้ในเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ของลี้ภัยในประเทศอังกฤษ อัยการจะดำเนินการใดๆ ได้หรือไม่ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศกล่าวว่า การขอลี้ภัยเป็นการดำเนินการส่วนตัวของผู้นั้นกับประเทศปลายทาง แต่ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะทำให้การขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนทำไม่ได้เพราะหน่วยงานที่พิจารณาขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ผู้ประสานงานกลางของอังกฤษคือกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นคนละหน่วยงานกับที่จะพิจารณาคำขอลี้ภัย ดังนั้นเรายังขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้เมื่อมีข้อมูลที่อยู่ยืนยันชัดเจน แต่ในการพิจารณาคำร้องขอทั้ง 2 เรื่องของประเทศปลายทางนั้นจะเป็นอย่างไรเราก้าวล่วงไม่ได้ แต่ถ้าเขาจะให้เราชี้แจงเพิ่มเติมเราก็พร้อม
นายอำนาจระบุด้วยว่า การทำคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้น อัยการจะไม่ระบุเรื่องข้อมูลการขอลี้ภัยเพราะเราเองไม่ทราบรายละเอียดข้อกล่าวอ้างของจำเลย หากระบุทั้งที่ไม่รู้อะไรชัดเจนอาจจะเป็นผลเสียมากกว่า ขณะที่การพิจารณาเรื่องคำขอลี้ภัยเราก็ไม่อาจคัดค้านได้ เว้นแต่ประเทศนั้นจะสอบถามเราเพิ่มเติมหรือไม่ แต่เราจะยืนยันในส่วนของการส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เป็นอำนาจของเราโดยตรง ซึ่งในการยื่นจะระบุเหตุผลว่าเป็นคดีอาญาความผิดทั้งสองประเทศ ไม่ใช่คดีการเมือง การทหาร โดยมีการแปลสำนวนคดี คำพิพากษาชัดเจนซึ่งถึงที่สุดแล้ว และหมายจับของศาลประกอบไป เหมือนกรณีการติดตามตัวนายทักษิณ ชินวััตร ที่ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 2 ปี ในคดีซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ซึ่งอัยการก็เคยยื่นคำขอไปแล้วร่วม 10 ประเทศทั้งแถบยุโรปและเอเชีย โดยมีทั้งปฏิเสธมาว่านายทักษิณไม่ได้อยู่ขณะร้องขอหรือเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งนายทักษิณมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวย่อมสร้างความสะดวกในการเดินทางเข้าออกประเทศใดได้รวดเร็ว แต่ทั้งนี้การขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนในทุกกรณีไม่ใช่เรายื่นซ้ำไม่ได้อีก เพียงแค่เรามีข้อมูลอัปเดตใหม่ว่าจำเลยหรือผู้ต้องหาที่อัยการสั่งฟ้องแล้ว ยังคงเข้าออกในประเทศนั้นเราก็สามารถยื่นคำร้องได้อีกว่าที่เขาเดินทางออกไปแล้วขณะนี้ได้กลับเข้ามาอีกวัน-เวลาใด ดังนั้นที่สำคัญมาก คือ การตรวจสอบข้อมูลแหล่งที่อยู่ในเวลานั้น ขณะที่การยื่นก็จะดำเนินการโดยเร็วที่สุด