MGR Online - รอง ผบช.ทท.แถลงทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งไทย-เทศ รับหน้าที่ตระเวนกดเงินสด ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ให้การรับสารภาพ รับหน้าที่เป็นหน้าม้าลวงเหยื่อเปิดบัญชีขายให้นายหน้าชาวต่างชาติ
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่ สน.บางเขน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) แถลงผลการจับกุม 3 ผู้ต้องหา ได้แก่ นายวสิฐวิชญ์ สุขเบื้องบน อายุ 43 ปี, นายณัฐพงศ์ ตรัยรัตนยนต์ อายุ 38 ปี และนายซู เช่าหลง อายุ 22 ปี สัญชาติไต้หวัน ผู้ต้องหาตระเวนกดเงินสดให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมยึดทรัพย์สินจำนวน 26 รายการ ทั้งรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการถอนเงินสด และเงินสดจำนวน 154,000 บาท
โดยนายวสิฐวิชญ์ทำหน้าที่ขับรถตระเวนถอนเงินสดที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายจากตู้กดเงินสดในพื้นที่ลาดพร้าว ทองหล่อ บางเขน กรุงเทพมหานคร และ อ.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันบุกรุกเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืน และร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน ขณะที่นายณัฐพงศ์ ผู้ทำหน้าที่กดเงิน ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงเป็นบุคคลอื่น และนายซู เช่าหลง อายุ 22 ปี สัญชาติไต้หวัน ตำรวจจับกุมได้ขณะทำการทดสอบบัตรอิเล็กทรอนิกส์บริเวณตู้กดเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา ร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท สาขาการเคหะ อ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมของกลาง เช่น บัตรอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์มือถือ ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยจะกดเงินแล้วโอนไปในบัญชีต้นทางในประเทศจีน มีการกดเงินไปกว่า 40 ครั้ง โดยพรุ่งนี้จะไปหารือกับอธิบดีอัยการเพื่อให้การฟ้องและนำทรัพย์สินคืนสู่ประชาชนเร็วขึ้น และสัปดาห์หน้าจะมีผู้เสียหายที่เป็นคนจีน เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อรับทรัพย์สินคืนด้วย
รอง ผบช.ทท.กล่าวว่า สถิติผู้เสียหายจากเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ที่แจ้งความต่อตำรวจมี 226 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ระยะหลังมานี้มีคนไทยตกเป็นผู้เสียหายน้อยลง สำหรับคนไทยที่เปิดบัญชีหน้าม้าหลายบัญชี ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างไม่มีข้อยกเว้น จึงขอให้ผู้ที่เป็นหน้าม้าเดินทางไปปิดบัญชีและยกเลิกการขายบัญชีให้คนต่างชาติด้วย พร้อมยอมรับว่าในอดีตที่จับกุมคนร้ายได้ไม่หมดเนื่องจากไม่ได้จับกุมคนเปิดบัญชี เน้นจับแต่ผู้ทำหน้าที่กดเงินจึงทำให้ปัญหาไม่จบสิ้น เมื่อจับกุมผู้รับจ้างเปิดบัญชีจึงทำให้มีการทำผิดน้อยลง ส่วนคนไทยที่เดินทางไปเป็นเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศ ขณะนี้พบว่ามีการเดินทางกลับประเทศไทยมากขึ้นเพราะคนไทยตกเป็นเหยื่อน้อยลง มีการหักเปอร์เซ็นต์ทำให้มีรายได้น้อยลง จึงขอให้เดินทางกลับบ้านเกิด ขอให้เลิกหลอกลวงคนไทย หันมาทำงานสุจริตด้วย