MGR Online - รมว.ยุติธรรม นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่ จ.พิจิตร รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนพร้อมหาทางช่วยเหลือ ภายใต้โครงการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม พบภาคเหนือตอนล่างมีปัญหาหนี้สิน ข้อพิพาทเรื่องที่ดิน
วันนี้ (22 ธ.ค.) ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าจังหวัดพิจิตร ซีเค คอนเวนชั่นฮอลล์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ในการอำนวยความยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ภายใต้โครงการยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐสู่ประชาชน ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยมีผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เข้าร่วมฯ
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง คือ ปัญหาหนี้สิน ปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดิน ปัญหาการไม่รู้ข้อกฎหมาย และการเข้าไม่ถึงบริการภาครัฐ ทั้งหมดนี้ เป็นปัญหาที่ต้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่สร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบ ผ่านช่องทางการสื่อสารทุกรูปแบบ โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดีย รวมถึงการสร้างอาสาสมัครจิตอาสาในหมู่บ้านเพื่อทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมในพื้นที่เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนต่อไป
จากนั้น เวลา 13.30 น. พล.อ.อ.ประจิน พร้อมคณะผู้บริหาร เดินทางไปยังศูนย์ยุติธรรมชุมชนตำบลกำแพงดิน ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร เพื่อเปิดโครงการยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐสู่ประชาชน ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2561 โดยมี นางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวพิจิตร กว่า 500 คน ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ พล.อ.อ.ประจิน ได้เยี่ยมชมนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และได้รับหนังสือจาก นางอารมณ์ คำจริง ผู้แทนกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เรื่อง ขอให้พิจารณาดำเนินการด้านกฎหมายคดีเหมืองแร่ทองคำที่อยู่ในชั้นสอบสวนของ ป.ป.ช. และ ดีเอสไอ โดย รมว.ยธ. กล่าวว่า จะเร่งดำเนินการให้เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน
นอกจากนี้ นางมาลี กันสุข อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/4 หมู่ที่ 6 ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ผู้แทนประชาชนที่ถูก บริษัททีพีไอ ฟ้องร้องคดี จำนวน 120 ราย ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทาง พล.อ.อ.ประจิน เผยว่า กรณีนี้จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ การเร่งติดตามข้อมูลเอกสารที่ประชาชนถูกเอาเปรียบ พร้อมทั้งจะดูแลปัญหาความเดือดร้อนในด้านค่าใช้จ่าย โดยเรื่องที่เข้าสู่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดแล้วจะเร่งดำเนินการต่อ ส่วนที่ขึ้นศาลแล้วจะติดตามช่วยเหลือต่อไป ส่วนที่ 2 ในระยะยาวต้องพิจารณาแก้ไขปัญหาการที่ประชาชนถูกหลอกให้เซ็นเอกสารแล้วนำไปเพิ่มเติมข้อมูลจะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างไร แต่ทั้งนี้ ต้องศึกษาแต่ละกรณีอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับปัญหาเกี่ยวกับพืชผลทางการเกษตรทั้งพันธุ์พืชปุ๋ยต่างๆ จะต้องประสานกับเกษตรและพาณิชย์เพื่อให้เข้ามาดูแลและช่วยเหลือต่อไป