กรมศุลกากรลงพื้นที่ตรวจตู้คอนเทนเนอร์สินค้าของบริษัท จีทีซี โลจิสติกส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จ.นนทบุรี จำนวน 4 ตู้ พบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า บุหรี่ไฟฟ้า และอื่นๆ มูลค่าเสียหายกว่า 900 ล้านบาท
วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยี สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงผลการจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบหนีศุลกากรมูลค่าของกลางรวมทั้งสิ้นกว่า 900 ล้านบาท
นายกุลิศ กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรได้มีนโยบายในการปกป้องสังคม และสร้างความเป็นธรรมทางการค้าและการจัดเก็บภาษีอากร รวมทั้งขจัดอิทธิพลกลุ่มขบวนการลักลอบค้าของเถื่อน จึงได้สั่งการให้นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีฯ มอบหมายให้ นายวรวุฒิ วิบูลย์ศิริชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม เข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าลักลอบหนีศุลกากร รวมถึงแหล่งรับซื้อ เพื่อปราบปรามขบวนการลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งทำผิดกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องและวางแผนจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และบุหรี่ไฟฟ้าหลีกเลี่ยงศุลกากร
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ของวันนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักสืบสวนและปราบปราม (สสป.) นำโดย นายณัฐวุฒิ สระฏัน ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 1 ได้เข้าทำการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้า จำนวน 4 ตู้ ของบริษัท จีทีซี โลจิสติกส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จ.นนทบุรี ซึ่งสำแดงภายในเป็นเสื้อผ้าและกระเป๋า จากการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ตู้ที่ 1 พบสินค้าแบรนด์เนมประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า บุหรี่ไฟฟ้า และอื่นๆ ที่ละเมิดลิขสิทธิ์หลีกเลี่ยงศุลกากรจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 900 ล้านบาท
ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานสำแดงเท็จ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัดที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันมีเจตนา ฉ้อภาษีของรัฐอันเป็นความผิดตามนัยมาตรา 202, 242, 243 และ มาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบกับมาตรา 252 และเป็นของอันพึงต้องริบตามมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ส่วนตู้สินค้าอีก 3 ตู้คอนเทนเนอร์ จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป
