MGR Online - ปปง. อายัดทรัพย์คดีฉ้อโกงอดีต ปธ.ออมทรัพย์จุฬาฯ ลวงเงินเหยื่อ มาร่วมลงทุนโควตาลอตเตอรี่ และคดีหลอกลวงให้ ปชช. ลงทุนซื้อขายทองคำล่วงหน้า รวม 28 คดี ยึดอายัดทรัพย์ 3 ครั้ง มูลค่ากว่า 57 ล้านบาท
วันนี้ (7 พ.ย.) พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติยึดและอายัดทรัพย์สินของของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน จำนวน 2 คดี มูลค่ากว่า 57 ล้านบาท กล่าวคือ 1. คดี นายสวัสดิ์ แสงบางปลา ซึ่งเป็นอาจารย์สอนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหลายสมัย กับพวก โดยได้ร่วมกันกระทำความผิดหลอกลวงประชาชน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 - 2560 และมีประชาชนหลงเชื่อ นำเงินมาเข้าร่วมลงทุนโควตาลอตเตอรี่ โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนร้อยละ 12 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินพึงจะจ่ายได้อันเป็นความเท็จ
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าว ทำให้ประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท เป็นความผิดมูลฐานฉ้อโกงประชาชนและชอบโกงอันเป็นปกติธุระ อันเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2543 มาตรา 3(3) และมาตรา 3(18) โดยสำนักงาน ปปง. ได้บูรณาการในการปฏิบีติกับกองบังคับการปราบปราม ทำการสืบสวนขยายผล เพื่อทำการยึดอายัดทรัพย์สินของนายสวัสดิ์ กับพวก และ คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ทำการยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวนทั้งสิ้น 26 รายการ มูลค่ากว่า 11 ล้านบาท
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวต่อว่า 2. คดี น.ส.อินทร์วรางค์ ดำแดง กับพวก มีพฤติการณ์ในการหลอกลวงให้ประชาชนร่วมลงทุนในการซื้อทองคำในตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าในประเทศสหรัฐอเมริกา อันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานแห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (3) และมาตรา 3 (18) โดย น.ส.อินทร์วรางค์ กับพวก ได้ร่วมกันกระทำความผิดหลอกลวงประชาชน ตั้งแต่ปี 2555 - 2560 ทำให้ประชาชนหลงชื่อตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหาย เป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 120 ล้านบาท
“สำนักงาน ปปง. ได้บูรณาการในการปฏิบัติงานกับกองบังคับการปราบปราม ทำการสืบสวนและยึดทรัพย์สินของ น.ส.อินทร์วรางค์ กับพวก เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2560 ได้อายัดทรัพย์สิน จำนวน 10 รายการ มูลค่าประมาณ 19 ล้านบาท และได้มีการสืบสวน สอบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนสามารถยึดและอายัดทรัพย์สินได้อีก 3 ครั้ง ครั้งแรก วันที่ 22 ส.ค. 2560 อายัดทรัพย์สินอีก จำนวน 12 รายการ มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2560 อายัดทรัพย์สินอีก จำนวน 1 รายการ มูลค่าประมาณ 19 ล้านบาท และ ครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2560 ยึดทรัพย์สินอีก จำนวน 17 รายการ เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดัง อยู่ระหว่างการประเมินราคา ซึ่งรวมทรัพย์สินที่มีการยึดและอายัดทั้งสิ้น จำนวน 40 รายการ รวมมูลค่ากว่า 46 ล้านบาท”
พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมและเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในมูลฐานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน และเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านการสนับทางการเงินแก่การก่อการร้าย
