MGR Online - สตม.แถลงจับกุมแก๊งโรแมนซ์สแกมสัญชาติไนจีเรีย สร้างเฟซบุ๊กปลอมเป็นชาวยุโรปมีฐานะดีหลอกเหยื่อทำธุรกิจ อีกคดีจับหนุ่มอินเดียจอมต้มตุ๋นอ้างตัวเป็นชาวอเมริกันมีฐานะดี เลือกเหยื่อที่สาวหวังลักทรัพย์ ตระเวนก่อเหตุมาแล้วทั้งในมาเลเซีย จีน เวียดนาม
วันนี้ (12 ต.ค.) เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.สตม. พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รรท.รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผบก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงผลงานเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สส.สตม. จับกุมนายโอสิตา ลอว์เรนซ์ นวาเอนยี (OSITA LAWRENCE NWAENYI) อายุ 33 ปี สัญชาติไนจีเรีย และนายชักเวบูกา สแตนเลย์ ปีเตอร์ (CHUKWUEBUKA STANLEY PETER) อายุ 33 ปี สัญชาติไนจีเรีย แก๊งโรแมนซ์สแกม (Romance scam) โดยการสร้างเฟซบุ๊กปลอมเป็นชาวยุโรปมีฐานะดี จากนั้นจะค้นหาเหยื่อในเฟซบุ๊กแล้วติดต่อทำความรู้จักและพูดคุยอ้างตัวเป็นคนมีหน้าที่การงานดี มีฐานะดี และหลงรักในตัวเหยื่อหรืออยากร่วมลงทุนทำธุรกิจกับเหยื่อ โดยออกอุบายจะส่งทรัพย์สินของมีค่ามาให้เป็นของขวัญหรือเป็นการการันตีไว้ก่อน พร้อมทั้งส่งภาพทรัพย์สินและกล่องพัสดุรวมทั้งใบส่งของที่มีชื่อของเหยื่อ โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์แก้ไขภาพเป็นชื่อที่อยู่ของเหยื่อ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อจะมีผู้ร่วมขบวนการติดต่อไปอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทส่งของ หรือศุลกากร หรือสถานทูต หรือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติด เพื่อให้เหยื่อชำระค่าธรรมเนียมส่งของผ่านการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารต่างๆ และจะหลอกอ้างเหตุผลต่างๆ ให้เหยื่อโอนเงินมาเรื่อยๆ เมื่อเหยื่อรู้ตัวจะหลบหนีไปหาเหยื่อรายใหม่ต่อ
โดยกรณีนายโอสิตา และนายชักเวบูกา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีคนต่างชาติซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัย ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง มักอยู่แต่ในห้องและใช้คอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน หลังจากนั้นจึงได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมจนกระทั่งมั่นใจว่าทั้งสองเป็นแก๊งโรแม๊นสแกมจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และตรวจค้นภายในห้องพักคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านถนนศรีนครินทร์ ขณะเข้าตรวจสอบทั้งสองกำลังใช้คอมพิวเตอร์อยู่ เบื้องต้นตรวจสอบการเดินทางพบว่านายโอสิตา และนายชักเวบูกาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ถูกต้องจึงทำการจับกุมตัว
จากการตรวจสอบภายในห้องพบคอมพิวเตอร์ที่กำลังใช้โปรแกรมเฟซบุ๊กหลอกเหยื่อ และโทรศัพท์อีกจำนวนหนึ่ง โดยหลังจากตรวจสอบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ดังกล่าวพบภาพถ่ายชาวยุโรป ภาพทรัพย์สินของมีค่า ภาพกล่องพัสดุ และภาพใบแจ้งการส่งพัสดุซึ่งเชื่อว่ามีไว้ใช้หลอกเหยื่อให้หลงเชื่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาผู้เสียหายเพื่อดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงต่อไป
ส่วนอีกคดี เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สส.สตม.ได้ร่วมกันจับกุม นายวินาย มิสรา (VINAY MISHRA) อายุ 29 ปี สัญชาติอินเดีย หลังมีผู้เสียหายร้องเรียนว่าถูกนายวินายใช้กลอุบายลักทรัพย์สินไป โดยอ้างว่าเป็นชาวอเมริกัน มีธุรกิจโรงแรม มีฐานะดี แล้วพูดคุยจีบเหยื่อจนเหยื่อหลงเชื่อ จากนั้นจะออกอุบายทำเป็นถูกคนร้ายปล้นทรัพย์สิน หรือกระเป๋าทรัพย์สินสูญหาย ไม่มีเงินติดตัว และขอไปพักบ้านเหยื่อ หลังจากได้เข้าไปอยู่ในบ้านจะชักชวนเหยื่อไปเที่ยวผับกลางคืนแล้วแอบกลับมาบ้านเหยื่อก่อน และทำการลักทรัพย์สินของเหยื่อ ต่อมาเมื่อเหยื่อกลับมาจะแสร้งทำเป็นมีขโมยเข้ามาลักทรัพย์และบอกเหยื่อว่าทรัพย์ของตนก็ถูกขโมยด้วย แต่เนื่องจากเหยื่อไม่เชื่อเพราะไม่มีร่องรอยงัดแงะหรือรื้นค้นทรัพย์สิน จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบ
โดยจากการสืบสวนทราบว่า นายวินายเปิดห้องพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. สอบถามทางโรงแรมทราบว่านายวินายได้มาเปิดห้องพักและนำกระเป๋าเดินทางมาฝากไว้ 1 ใบ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบภายในห้องพักและกระเป๋าดังกล่าว พบสิ่งของมีค่าจำนวนมาก เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูป สร้อยคอทองคำ นาฬิกา บัตรเครดิต และธนบัตรสกุลต่างๆ อีกหลายรายการ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาพยานหลักฐาน พร้อมทั้งตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบถามนายวินายยอมรับว่าตนเองเป็นชาวอินเดีย แต่จะอ้างว่าเป็นชาวอเมริกัน และจะหาเหยื่อที่เป็นหญิงสาวผ่านโปรแกรมค้นหาผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ เช่น Find Friends Nearby ของ Facebook หรือโปรแกรมหาคู่ชื่อ tinder จากนั้นจะติดต่อพูดคุยจีบเหยื่อจนหลงเชื่อ แล้วจะอ้างเหตุตามข้างต้นเพื่อลักทรัพย์สินของเหยื่อ โดยตระเวนทำมาแล้วทั้งในประเทศมาเลเซีย จีน เวียดนาม และไทย จนกระทั่งถูกจับได้ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบมีผู้เสียหายหลายรายในประเทศเวียดนามสูญเสียทรัพย์สินมูลค่าหลายแสนบาท เบื้องต้นทำการจับกุมข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด