MGR Online - รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.พะเยา ภายใต้โครงการ “ยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐสู่ประชาชน” พบพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ยังมีปัญหาเรื่องลูกหนี้นอกระบบ ยาเสพติด การบุกรุกที่ดิน และ การฉ้อโกง
วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมพะเยา เกทเวย์ จ.พะเยา นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา ภายใต้โครงการ “ยุติธรรมสู่หมู่บ้าน นำบริการรัฐสู่ประชาชน” เพื่อพบปะประชาชนและรับทราบปัญหาความเดือดร้อน ซึ่งจะนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือในด้านกระบวนการยุติธรรม และพัฒนาการให้บริการของกระทรวงยุติธรรมให้ตรงตามความต้องการของประชาชน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเยี่ยมเยียนการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่จังหวัดพะเยา ประกอบด้วย สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพะเยา สำนักงานบังคับคดีจังหวัดพะเยา สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดพะเยา และเรือนจำจังหวัดพะเยา นอกจากนี้ ยังเป็นประธานการประชุมการอำนวยความยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ โดยมีหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ และพะเยา เข้าร่วม
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า วันนี้รับมาติดตามความคืบหน้าของการทำงานของสำนักงานยุติธรรมจังหวัดตามโครงการ โดยหัวใจสำคัญในการประชุมในครั้งนี้ คือ 1. เน้นย้ำเรื่องการทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของกระทรวงยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว 2. เน้นย้ำในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ ปชช. ให้ได้ ซึ่งในภาคเหนือตอนบน พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องลูกหนี้นอกระบบ ยาเสพติด การบุกรุกที่ดิน และการฉ้อโกง 3. ทำงานบูรณาการร่วมกันระหว่างจังหวัด โดยให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมได้อย่างที่ต้องการ
“ภาคเหนือมีการแพร่ระบาดยาเสพติดสูง โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ต้องรับไปปรับปรุง เราต้องทำให้ผู้ต้องขังลดลง ให้เรือนจำจุผู้ต้องขังให้พอดีกับขนาด ให้ผู้ที่ติดยาควรรักษาบำบัดฟื้นฟูให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ลดปัญหาผู้ต้องขังได้บ้างโดยกระทรวงยุติธรรมทำงานรวมกับกระทรวงสาธารณสุขให้มากขึ้น” นายสุวพันธุ์ กล่าว
นายสุวพันธุ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงยุติธรรมมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ การขับเคลื่อนงานด้านการอำนวยความยุติธรรม โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งดูแลและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการปรับปรุงกระบวนการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และ เป็นธรรม โดยการจัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชนทั่วประเทศ จำนวน 7,785 แห่ง และได้จัดตั้งสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทุกจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในทุกพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทางเข้ามาขอรับบริการหรือร้องเรียน ร้องทุกข์ที่ส่วนกลาง ซึ่งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนและเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนที่อยู่ห่างไกลได้รับความยุติธรรมและเข้าถึงความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศตามนโยบายของรัฐบาล
นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อว่า ในจังหวัดพะเยามีศูนย์ยุติธรรมชุมชน จำนวน 71 ศูนย์ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์ยุติธรรมชุมชนตำบลแม่ปืม ณ เทศบาลตำบลแม่ปืม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์ยุติธรรมชุมชนที่มีศักยภาพในการดำเนินงานตามภารกิจ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1. ด้านป้องกัน เฝ้าระวังอาชญากรรมในชุมชน 2. ด้านการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ 3. ด้านไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท 4. ด้านการแจ้งสิทธิเยียวยาช่วยเหลือการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และ 5. ด้านการติดตาม ดูแล เปิดโอกาสให้ผู้พ้นโทษหรือ ผู้ถูกคุมประพฤติกลับสู่สังคม
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา นายอนุวัฒน์ พรมวงศ์ อายุ 46 ปี อาชีพชาวนา จากจังหวัดพะเยา ได้เดินทางเข้าร้องยื่นเอกสารร้องทุกข์ต่อ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังจากถูกหลอกนำบัตรประชาชนไปทำธุรกรรม โดยมีหนังสือแจ้งทวงหนี้จากการทำธุรกรรมกับสถาบันทางการเงินต่างๆ จำนวน 11 บัญชี ทั้งหมด 8 แห่ง รวมยอดหนี้ทั้งสิ้น 610,000 บาท ทั้งที่ไม่เคยทำธุรกรรมด้านการเงินมาก่อน
โดย นายสุวพันธ์ กล่าวว่า มีการแจ้งความในท้องที่พะเยาไว้แล้ว โดยมีการเอาเปรียบกับชาวบ้านที่มีการศึกษาน้อย ทั้งนี้ จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับไปดำเนินการทันที
