xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีวราห์” ลั่นจับ 3 ตำรวจพา “ปู” หนีไม่ใช่ปาหี่ ย้ำเอาผิดอาญาไม่ได้ อ้ำอึ้งอดีต พล.ต.อ.-พล.ต.ท.ชักใย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.
MGR Online - รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง ถก ตร.สระแก้ว-ตม. เช็กเส้นทางรถทุกคันพา “ยิ่งลักษณ์” หนี ยันการจับตำรวจ 3 นายไม่ใช่ปาหี่ แต่เอาผิดได้แค่ใช้ทะเบียนปลอม อ้ำอึ้งหากเชื่อมโยงอดีต พล.ต.อ.-พล.ต.ท.พาหนี ต้องเชิญตัวมาสอบ



วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว โดยได้เรียกตำรวจ บก.ภ.จว.สระแก้ว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เพื่อสืบสวนติดตามโดยเฉพาะรถกระบะ 4 ประตู สีทึบ ที่นายตำรวจขับรถไปส่งที่ จ.สระแก้ว ให้การว่าเป็นรถคันที่มารับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกทอดหนึ่งแล้วขับออกไปทางชายแดนไทย-กัมพูชา

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการต่อ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รอง ผบก.น.5 ช่วยราชการ ศปก.น.5 และพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถที่นำพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปยัง จ.สระแก้ว ในวันที่ 23 ส.ค. ได้ดำเนินการทุกอย่างแล้วทั้งสอบสวนบันทึกการให้ปากคำ ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีในความผิดฐานใช้เอกสารปลอม กรณีป้ายทะเบียนรถยนต์ โดยต้นสังกัดทั้ง บช.น.และ ภ.จว.นครปฐม ตั้งกรรมการสอบวินัยตำรวจทั้ง 3 นาย

ส่วนที่มีกรณีมีข้อมูลพาดพิงไปถึงอดีต ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร. และนายตำรวจยศ พล.ต.ท.นั้น รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องรอการดำเนินคดีทางอาญาให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะขยายผลไปส่วนนี้ หากการดำเนินคดีอาญามีการพาดพิงถึงใครก็ต้องเชิญมา แต่ขณะนี้ขอให้เข้าใจการดำเนินคดีอาญาเป็นเพียงการดำเนินคดีในส่วนของการใช้ป้ายทะเบียนปลอมเท่านั้น ส่วนกรณีอื่นยังไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 และมาตราอื่นๆ ก็ไม่มีการระบุว่าการพาจำเลยไปไหน หรือหลบหนี มีความผิด

“อย่าลืมว่าเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์มีสถานะเป็นจำเลยเท่านั้น ผมในฐานะผู้รักษากฎหมายจะเอาอะไรไปเอาผิดต่อคนเหล่านี้ ในเมื่อกฎหมายไม่ได้ระบุว่าเป็นความผิด ขอให้คนที่วิจารณ์ไปศึกษา อ่านข้อกฎหมายให้ดีว่าการพาจำเลยหนีผิดกฎหมายหรือไม่ กรณีนี้หากมีการพาหนีจริงก็เอาผิดตามกฎหมายไม่ได้ ผมจึงจับตำรวจ 3 นายกรณีพาหนีไม่ได้ เอาอำนาจกฎหมายข้อไหนไปจับ” รอง ผบ.ตร.กล่าว และว่าขณะนี้ยังไม่ทราบเลยว่าในวันที่ 27 ก.ย.ศาลจะพิพากษาออกมาอย่างไร หากศาลพิพากษาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ผิด ตนไม่ถูกดำเนินคดีหรือ หากไปจับตำรวจเหล่านี้ ตนเป็นตำรวจต้องทำตามกฎหมาย ไม่ได้ทำตามอำเภอใจ ทุกคนต้องรู้อยู่แล้วว่ากฎหมายกำหนดไว้อย่างไร ขอยืนยันว่าการดำเนินการต่อตำรวจทั้ง 3 นายไม่ใช่เรื่องปาหี่ แต่เป็นการสืบสวนดำเนินการตามกฎหมาย กรณีที่พบรถแล้วสอบสวนจนพบว่าใช้ทะเบียนปลอมก็ผิดกฎหมาย แต่เรื่องอื่นไม่ผิด ยืนยันว่าคนอย่างตนเป็นเจ้าพนักงานในคดีนี้ไม่เสียมวยตามที่สื่อบางสำนักวิจารณ์แน่นอน แต่ต้องทำตามกฎหมาย ตนเป็นนายตำรวจผู้ใหญ่แล้ว ไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหายแน่นอน

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในประเทศ หรือนอกประเทศ จากการสอบถามผ่านช่องทางตำรวจสากล ทุกๆ 7 วัน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดยืนยันเลยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปพำนักอยู่ที่ใด ในการสอบสวนตำรวจ 3 นาย ตนก็บอกเพียงว่ามีการไปส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ จ.สระแก้วเท่านั้น ไม่เคยบอกเลยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศแล้ว ขณะนี้กำลังสืบสวนหาตัวชายที่มีข้อมูลว่ามารับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ชายแดน และสืบสวนหารถกระบะและรถเบนซ์ที่เกี่ยวข้อง

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีนั้นยืนยันว่าดำเนินคดีในส่วนทะเบียนปลอมที่มีการสอบสวนหน่วยที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ส่วนกรณีหากมีการพาออกนอกประเทศ ต้องอธิบายว่ากรณีการการเข้าออกประเทศโดยผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมืองนั้น เป็นคดีลหุโทษที่กฎหมายระบุว่าไม่สามารถเอาผิดต่อผู้ให้การสนับสนุนได้ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเรียกตำรวจ 3 นายมาสอบสวนหรือให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว บันทึกการให้ปากคำทุกอย่าง ร้องทุกข์กล่าวโทษในส่วนคดีอาญาไปแล้ว เหลือเพียงการดำเนินการของต้นสังกัดในการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ดำเนินการไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า การเรียกตัวอดีต พล.ต.อ.และ พล.ต.ท.ที่มีข่าวพัวพันวางแผนพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีจำนำข้าวออกนอกประเทศนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของชุดทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ว่าสามารถขยายผลและมีน้ำหนักเพียงพอที่จะเชิญตัวมาให้ข้อมูลหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีวิจารณ์ว่าเป็นการจัดฉากยึดรถ และ สอบสวนตำรวจทั้ง 3 นายเพื่อกลบประเด็นข่าวทางการเมืองนั้น ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ยอมให้นำศักดิ์ศรีของตำรวจมาทำลายแลกกับการตั้งข้อสงสัยของสังคม เนื่องจากที่ผ่านมาตำรวจได้มีการวางกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนศาลมีคำพิพากษา กระทั่งจำเลยหลบหนีคดี จึงมีการแกะรอยตรวจสอบจนทราบรถและเส้นทางหลบหนี ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องปาหี่อย่างแน่นอน ส่วนมาตรการรักษาความสงบบริเวณศาลฯ ในวันที่27 กันยายนที่จะถึงนี้ กองบัญชาตำรวจนครบาลเป็นหน่วยงานที่ประเมินกำลังว่าจะใช้มากน้อยแค่ไหน ยืนยันว่าตำรวจรักษาความปลอดภัยเต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น