“ทนายเกิดผล” พา 2 วัยรุ่นถูกแก๊งอันธพาลรุมกระทืบ - ไล่ยิงคาปั๊ม แจ้งข้อหา “เจตนาฆ่า” เพิ่มเติม เผยตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว จ่อออกหมายจับเร็วๆ นี้ ด้านพ่อลั่นเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แม้มารดาอีกฝ่ายเสนอเงินหมื่นให้ถอนแจ้งความ
จากกรณีที่โลกออนไลน์เผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดขณะกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7 - 8 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในปั๊มน้ำมัน และทำร้ายวัยรุ่นชาย 2 คน ที่นั่งอยู่บริเวณข้างตู้เติมน้ำมันอย่างรุนแรง จนรายหนึ่งสลบอยู่บนพื้น ส่วนอีกรายถูกทำร้ายและพยายามวิ่งหนี แต่ก็ถูกกลุ่มคนร้ายวิ่งตามและใช้ปืนยิง จนกระทั่งลากคอกลับมายังปั๊มเพื่อทำร้ายต่อ
วันที่ 20 ก.ย. เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ สน.บางพลัด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้เดินทางมาพร้อมกับนายสิงหะ หรือ น้องทอง สุดวัน อายุ 18 ปี และ นายศักดิ์สิทธิ์ หรือ น้องกาย สุขพานิช อายุ 18 ปี ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.อรุณ มูลกิติ รอง สว. (สอบสวน) สน.บางพลัด เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อกลุ่มผู้รุมทำร้าย
ทนายเกิดผล เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม หลังได้แจ้งความไว้แล้ววันที่เกิดเหตุ ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย จากการดูคลิปและพยานหลายๆ อย่างเห็น ว่า คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง โดยหมายเอาชีวิต มีเจตนาฆ่า น้องจึงขอให้ผมมาเป็นทนายเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หลังจากนี้ ต้องรอให้พนักงานสอบสวนตรวจดูพยานหลักฐานที่นำมาว่า จะสามารถดำเนินคดีอย่างไร โดยจากคลิป ผู้กำกับทราบบุคคลผู้ก่อเหตุแล้วว่าเป็นใคร คาดว่าจะออกหมายจับเร็วๆ นี้ โดยจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุจนถึงที่สุด
นายบุญฤทธิ์ สุดวัน อายุ 37 ปี คุณพ่อของน้องทอง กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ทางผู้ปกครองของกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้ามาเจรจากับตน พร้อมเสนอเงินประมาณหลักหมื่น เพื่อชดใช้ค่าบาดเจ็บ และให้ถอนแจ้งความ แต่ตนไม่เอา เพราะต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยคนที่มาคุยคือ แม่ของผู้ก่อเหตุ พร้อมบอกว่าหลังจากที่กลับไปที่บ้านก็ไม่ทราบว่าลูกจะก่อเหตุ
“ด้วยหัวอกคนเป็นพ่อ เมื่อตอนได้ดูคลิป รู้สึกรับไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดความสูญเสียอะไรที่ตามมาอีก ลูกตนอาจเสียชีวิตก็ได้ มันไม่สามารถเรียกคืนได้ เพราะฉะนั้น ไม่มีทางยอม”
นายสิงหะ หรือ น้องทอง เปิดเผยว่า ตนไม่ได้ทำงานที่ปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ แต่ได้แวะเวียนมาหาน้องกายในเวลาหลังเลิกงานเท่านั้น ก่อนที่ตนจะถูกทำร้าย หลังจากนั้น ก็ได้พยามวิ่งหนี แต่ตนก็ถูกทำร้ายจนสลบไป ที่บริเวณห้องน้ำ หลังจากฟื้นขึ้นมากลุ่มคนร้ายก็ทำร้ายร่างกายต่ออีก โดยการต่อย และเตะที่หน้า แล้วตนก็สลบต่อ หลังจากนั้น กลุ่มคนร้ายก็พยามนำขึ้นรถ แต่ก็มีคนมาห้ามเสียก่อน
นายศักดิ์สิทธิ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่คนร้ายได้ทำร้ายร่างกาย แล้วตนได้วิ่งหนีไปฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อ ขณะที่กำลังวิ่งหนีได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 1 นัด จากนั้นก็หยุดวิ่ง แล้วก็มีคนร้ายจำนวน 2 คน ได้วิ่งเข้ามาทำร้าย โดยใช้เท้าเตะที่ใบหน้า 5 - 6 ครั้ง จากนั้นคนร้ายได้ดึงคอเสื้อ บังคับให้กลับไปที่ปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึง คนร้ายที่ถือปืนเดินเข้ามาล็อกคอ และได้พยามบังคับให้ขึ้นไปบนรถยนต์ ต่อมาได้มีคนมาห้ามคนร้ายจึงได้หลบหนีไป
