xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสาวแสบ “น้ำมนต์” ลวงชายแต่งงานอ้างท้องแล้วเชิดเงินหนี ยันรักแท้ 7 อีก 7 หว่านเสน่ห์ให้ตายใจก่อน “โกง” (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “น้ำมนต์” เจ้าสาวแสบตุ๋นชาย 14 รายแต่งงาน แสร้งมารยาหญิงหลอกตั้งท้องก่อนเชิดเงินสินสอดหนี ยันรักแท้ 7 ราย ส่วนที่เหลือสารภาพเจตนาฉ้อโกง ผบช.ก.ระบุ “สร้อยเพชร” พ้นความผิดผู้ต้องหารับขโมยบัตรประชาชนเปิดบัญชีรับเงิน ตร.แจ้งข้อหาลักทรัพย์-ฉ้อโกง ผัวล่าสุดซวยใช้บัตรประชาชนค้ำซื้อทุเรียนแล้วไม่จ่ายเงิน เจ้าของสวนแจ้งจับฉ้อโกง





วันนี้ (8 ก.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป.แถลงผลจับกุม น.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือภรณ์ หรือน้ำมนต์ อายุ 32 ปี อยู่บ้าน 574 ม.11 ต.ศรีสงคราม อ.วังสะพุง จ.เลย ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 529/2560 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2560 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, หมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 190/2559 ลงวันที่ 8 ก.ค. 2559 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, หมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ 417/2560 ลงวันที่ 5 ก.ย. 2560 คดียักยอกทรัพย์, หมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ 144/2559 ลงวันที่ 16 ส.ค. 2559 คดีฉ้อโกงทรัพย์และศาลจังหวัดเลย คดีดำที่ 3446/2555 คดีแดงที่ 1046/2556 หนีประกันศาลคดีฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารราชการ และจับกุมนายกิตติศักดิ์ ตันติวัฒน์กุล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่1294/1 หมู่ 16 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร แฟนคนปัจจุบันของ น.ส.จริยาภรณ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 274/2559 ลงวันที่ 19 มี.ค. 2559 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง

โดยจับกุมนายกิตติศักดิ์ได้ที่โรงแรมไลค์อินน์ ถนนพุทธมณฑล สาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม ขณะพากิ๊กไปหลับนอน ก่อนขยายผลตามจับกุม น.ส.จริยาภรณ์ ได้ที่ถนนตลาดเก้าแสน แยกกระทุ่มแบน ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมยึดของกลางรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน 4 กจ 4319 กรุงเทพมหานคร รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน 1 ฒถ 1219 ระยอง แอร์ 1 เครื่อง ป้ายทะเบียนรถยนต์ 2 แผ่น บัตรประชาชนของ น.ส.สร้อยเพชร พาลีวัลย์ กุญแจรถยนต์ และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 2 เล่ม

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหาย 14 รายเข้าแจ้งความความพนักงานสอบสวนกองปราบปรามว่าได้รู้จักกับ น.ส.จริยาภรณ์ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะพูดคุยตีสนิทในเชิงชู้สาวจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน จากนั้นฝ่ายหญิงได้ชวนแต่งงานและร่วมลงทุนธุรกิจขายผลไม้ รวมทั้งอ้างว่ากำลังตั้งครรภ์และขอให้ฝ่ายชายจัดงานแต่งงาน แต่ภายหลังกลับเชิดเงินสินสอดจากผู้เสียหายแล้วหลบหนีไปรายละหลายแสนบาท รวมแล้วนับล้านบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.จริยาภรณ์ มีหมายจับหลายคดีจึงนำกำลังเข้าสืบสวน กระทั่งทราบว่า น.ส.จริยาภรณ์ได้คบหากับนายกิตติศักดิ์ แฟนใหม่ จึงเข้าจับกุม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องลงมากำกับคดีดังกล่าวด้วยตนเองนั้นเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากและกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ อาทิ ภาคตะวันออก เบื้องต้นจากการตรวจสอบมีผู้เสียหายจำนวน 11 ราย และคาดว่าจะมีเพิ่มอีก อีกทั้งยังเป็นคดีที่ประชาชนในความสนใจและอยากให้เข็ดหลาบ คดีดังกล่าวมีข้อมูลข้อเท็จจริงพยานหลักฐานเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กองปราบปรามที่จะต้องสร้างความชัดเจน ขณะนี้มีมูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงกว่า 3 ล้านบาท

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวต่อว่า คดีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นคดีสารพัดโกงอีกด้วย อีกทั้งกรณีที่เกิดขึ้นจะพิจารณาแจ้งข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระซึ่งนำไปสู่มูลฐานความผิดเพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์ได้ สำหรับพ่อแม่ของ น.ส.จริยาภรณ์ ที่หลบหนีอยู่ในขณะนี้นั้นก็ต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าพ่อแม่มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ หรือ น.ส.จริยาภรณ์ไปหลอกลวงพ่อแม่ว่าอย่างไร ส่วนกรณี น.ส.สร้อยเพชร พาลีวัลย์ อายุ 27 ปี ชาว จ.เลย ที่ถูก น.ส.จริยาภรณ์ นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารในการหลอกลวงนั้นถือว่าไม่มีความผิดเพราะเป็นการเปิดบัญชีม้า ซึ่ง น.ส.สร้อยเพชรไม่มีส่วนรู้เห็น

ด้าน น.ส.จริยาภรณ์กล่าวว่า ประกอบอาชีพค้าขายผลไม้จริง และจากข่าวที่บอกว่าตนหลอกลวงผู้ชาย 14 รายนั้นไม่เป็นความจริง ตนรักชอบพอกับผู้เสียหายและคิดแต่งงานจริงจังแค่ 7 ราย ส่วนที่เหลือยอมรับว่าเป็นการฉ้อโกง โดยคนที่คบหาแต่ละคน และแต่งงานด้วยนั้นก็มีการไปมาหาสู่กันและพูดคุยกัน แต่ละคนมีระยะเวลาที่พูดคุยกันอยู่ ไม่ได้มีเจตนาที่จะล่อลวง หรือมีเจตนาที่จะหลอกลวงใครให้มาแต่งงานและทุกคนยินยอมจะให้เงินกับตนเพื่อทำธุรกิจค้าขายผลไม้ร่วมกัน

“ฉันลงมือทำเพียงลำพัง พ่อแม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พอแต่งงานใหม่บอกพ่อแม่ว่าเลิกกับสามีคนเก่าแล้วมาแต่งงานใหม่ ส่วนรถกระบะนั้นฝ่ายชายเอามาให้เอง ไม่ได้หลอกลวง เขาว่าเอามาทำธุรกิจรับซื้อผลไม้ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม อยากขอโทษผู้ชายที่ถูกหลอกด้วย” น.ส.จริยาภรณ์กล่าว

สอบสวนนายกิตติศักดิ์ให้การว่า เป็นสามีใหม่ของ น.ส.จริยาภรณ์ ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการหลอกลวง ทั้งนี้คดีที่ถูกจับกุมนั้นมาจากการที่แฟนสาวชวนไปซื้อทุเรียนที่ จ.จันทบุรี มาขายต่อ โดยนำบัตรประชาชนของตนไปประกันไว้กับเจ้าของสวน จากนั้น น.ส.จริยาภรณ์กลับไม่จ่ายเงินให้เจ้าของสวนจึงถูกแจ้งความดำเนินดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนคบหากับ น.ส.จริยาภรณ์ เมื่อปี 2558 จากนั้นเขาก็อ้างว่าเขาท้องจึงตกลงสู่ขอโดยเรียกค่าสินสอด 1 แสนบาท แต่ตนต่อรองเหลือ 5 หมื่นบาท กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบมาก่อนว่าแฟนสาวมีพฤติกรรมหลอกผู้ชายแต่งงานแต่อย่างใด มารู้ว่าเขาแต่งงานกับคนอื่นเมื่อ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา

ด้านนายไพรัตน์ พึ่งสุข อายุ 28 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเป็นเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน 1 ฒถ 1219 ของกลางที่สามารถยึดได้ขณะจับกุม น.ส.จริยาภรณ์ ในส่วนของรถตนได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองระยอง นอกจากโดนขโมยรถแล้วตนยังโดนหลอกให้จ่ายเงินสดจำนวน 180,000 บาท ทั้งนี้ สำหรับการกระทำของ น.ส.จริยาภรณ์นั้นตนเสียความรู้สึกมากที่มาหลอกให้แต่งงาน แต่ยังทำให้เป็นหนี้สิน ทำทีมาพูดจาดีว่าให้ไปทำธุรกิจด้วยกัน สร้างอนาคตด้วยกัน ทั้งนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีต่อ น.ส.จริยาภรณ์ ให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากแถลงข่าวทางชุดจับกุมได้ควบคุมตัว น.ส.จริยาภรณ์ ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รับไว้ดำเนินคดี

ขณะที่นายกิตติศักดิ์ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป







กำลังโหลดความคิดเห็น