MGR Online - "ศรีวราห์"มั่นใจหลักฐานดีเอ็นบนร่างผู้ตาย พร้อมขนเพชรและอสุจิ มัดผู้ต้องหารุมโทรม ก่อนฆ่าอำพรางสาวเสิร์ฟที่หนองแค แม้ผู้ต้อหายังการให้การปฎิเสธ แต่มั่นใจในหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พบหนึ่งในผู้ต้องหาคือแฟนผู้ตายเอง
วันนี้(5 ก.ย.) ที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)ลงพื้นที่ สอบปากคำนายสันติ หรือ ลาภ ทิพมล นายศุภกร หรือ กอล์ฟ โสภา นายอธิพัชร์ หรือ ก้อง อภิญญากุล แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต และนายนันทพร หรือ โอ๊ต บุญมาก ที่ถูกออกหมายจับในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่น , ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราลักษณะโทรมหญิง หลังตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.นิศากร พุ่มพงษ์ อายุ 24 ปี พนักงานเสิร์ฟร้านอาหารใน อ.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 13 ส.ค.60 และถูกจับกุมได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำรวจได้ดำเนินการแสดงหมายจับต่อ 4 ผู้ต้องหาโดยทั้งหมดยอมรับว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริงรวมถึงมีการตั้งทนายความขึ้นมา 1 คน จากนั้นได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปให้พยานซึ่งเป็นเพื่อนและครอบครัวของผู้ตายชี้ตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ และเป็นการยืนยันคำให้การของพยาน โดยพยานยืนยันใบหน้าผู้ต้องหาเพียง 2 คน เท่านั้นที่อยู่ในวันเกิดเหตุ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าจากการสอบปากคำผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรุมโทรมหญิงและฆาตกรรม แต่ตำรวจยืนยันว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนในที่เกิดเหตุซึ่งเป็น ดีเอ็นเอบนร่างกายของศพ รอยแผล ขนเพชร อสุจิ และยังพบดีเอ็นเอของผู้ต้องหาบางคนบนสายชาร์จโทรศัพท์มือถือที่ใช้สำหรับผูกคอ รวมถึงข้อความบนโซเชียลมีเดียที่มีการส่งถึงกันในวันเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ตายมีการดื่มแอลกอฮอลล์ในปริมาณหนึ่ง จากการสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญประกอบ และมีหลักฐานคำให้การของพยานอีก 25 ปาก จนสามารถออกหมายจับได้ จึงยืนยันว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ส่วนสาเหตุจูงใจเชื่อว่า ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุรุมโทรมเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดการฆาตกรรม เพราะเกรงผู้ตายจะเอาเรื่อง
"ขอให้ทางครอบครัวผู้ตายสบายใจ โดยยืนยันว่าตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีการกดดันจากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ รวมถึงสั่งการให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เรียกตำรวจที่เป็นบิดาของหนึ่งในผู้ต้องหามาพบเพื่อทำบันทึกกำชับไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดี ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนจะนำตัวขออำนาจศาลจังหวัดสระบุรีฝากขังในวันพรุ่งนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเรงว่าจะหลบหนี อย่างไรก็ตาม หากพบหลักฐานว่ามีผู้เกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนเพิ่มเติมจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด สั่งการขยายผลแล้ว และเชื่อว่าน่าจะมีคนร่วมสั่งการเกี่ยวข้องอีก"รอง ผบ.ตร.กล่าว
ด้าน ครอบครัวของผู้ตายได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยเร่งรัดคดีจนสามารถจับกุมได้ และพอใจในการผลการทำคดี และขอให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
สำหรับคดีดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2560 หลังจากที่ น.ส.นิศากร พุ่มพงษ์ ชาว จ.อุทัยธานี ที่มาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี และได้คบหากับแฟนหนุ่มที่เป็นลูกชายของตำรวจยศดาบตำรวจของโรงพักแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี โดยมาอยู่บ้านเช่ากับแฟนหนุ่ม ในวันเกิดเหตุ น.ส.นิศากรได้ชักชวนเพื่อนวัยรุ่นจำนวน 3 คน มากินหมูกระทะที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว หลังกินเสร็จ น.ส.นิศากรได้ขึ้นบนชั้น 2 กระทั่งมาเป็นศพผูกคอตายโดยใช้สายชาร์จโทรศัพท์มือถือผูกกับลูกบิดประตูในตอนเช้า ซึ่งในเบื้องต้น ตำรวจได้สรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ครอบครัวและญาติผู้ตายไม่เชื่อ เพราะมีพิรุธหลายอย่าง จึงร้องขอความเป็นธรรม แต่การติดตามหาตัวผู้ต้องสงสัยล่าช้า จนเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสมพร พุ่มพงษ์ และนางระย่อม บัวทอง บิดามารดา น.ส.นิศากร พุ่มพงษ์ ได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล มีผู้ต้องสงสัยเบื้องต้น ประมาณ 4 คน ในนั้นมีทั้งลูกนายดาบตำรวจ ลูกผู้อำนวยการโรงเรียน และเป็นลูกนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งภายหลังจากรับเรื่อง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้สั่งเปลี่ยนพนักงานสอบสวน และเร่งให้ออกหมายจับ เนื่องจากมีผลการตรวจดีเอ็นเอ.ที่ศพผู้ตายออกมาแล้ว และตรงกับดีเอ็นเอ.ของผู้ต้องสงสัย