ผกก.สภ.คลองข่อย หวั่นคนเข้าใจตำรวจผิด กรณีตำรวจไม่ยอมคืนรถป๊อป จนสาวเจ้าของรถนำพลั่วมาทุบประชด ยันต้องยึดไว้ดำเนินคดีเพราะทำผิดวิ่งย้อนศร เลือกปฏิบัติไม่ได้ ฝากเห็นใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ เตือนรถป๊อปห้ามวิ่งบนทางหลวง เพราะกรมขนส่งไม่รับจดทะเบียน
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 60 ผู้สื่อข่าวได้ประสานเจ้าของเฟซบุ๊ก ชื่อ “นู๋ หนุ่ย มัลลิกา รัตนเจริญ” กรณีที่โพสต์คลิปวิดีโอเป็นภาพขณะเจ้าของรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นผู้หญิงกำลังใช้พลั่วทุบทำลายรถ โดยมีข้อความเขียนบรรยายว่า “ตีเองพังเอง ลงคลิปเอง (คลิปนี้ทางเราไม่ได้เป็นคนถ่ายนะคะ ทางคุณตำรวจเป็นคนถ่ายเอง พูดยั่วหนูเอง) ไม่ได้ใหญ่มาจากไหน แต่นักเลงพอ รู้ว่าเราผิด เราย้อนศร แต่เราออกจากซอยบ้านมาไม่กี่เมตร เราก็พูดขอรถคืนดีๆ แต่คุณยืนยันคำเดียวว่า ยึด คุณพูดจาจนลูกเราร้องไห้ แต่เราเข้าไปพูดขอดีๆ คุณไม่ถ่ายคลิป คุณถ่ายแต่ตอนที่เราพังรถ รถป๊อปห้ามขับถนนใหญ่ ถ้าขับไม่ได้จะเอาไว้ทำไม ก็พังสิคะ อีกอย่างคุณพูดอะไรกับลูกเรากรุณาระบุด้วย อย่าว่าแต่เราไม่ดี” ซึ่งในคลิปมีเสียงตำรวจตะโกนถามว่า “ทำไมใหญ่มากเหรอ” และพอหรือยัง เอาอีกๆ จากนั้นหญิงที่ทุบรถได้มีการพูดโต้ตอบกลับไป ภาพคลิปดังกล่าวมีผู้เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ผู้หญิงที่ทุบทำลายรถคือเจ้าของเฟซบุ๊ก ทราบชื่อคือ น.ส.มัลลิกา รัตนเจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ส่วนผู้ขับขี่จักรยานยนต์ย้อนศรเป็นแฟนของเจ้าของรถ ทราบชื่อคือ นายสุนทร แสงจั่น ส.อบต.อ้อมเกร็ด อยู่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 1 ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
จากการสอบถาม น.ส.มัลลิกา รัตนเจริญ เล่าเหตุการณ์ดังกล่าวว่า หลังจากแฟนโดนยึดรถ ตนเห็นตำรวจจึงเดินเข้าไปกล่าวสวัสดี ทางตำรวจถามว่ามีอะไร ตนจึงพูดไปว่าเมื่อเช้าแฟนกำลังจะไปส่งลูกแล้วโดนยึดรถ จึงจะมาขอรถคืนได้ไหม เขาบอกว่าผิดกฎหมายรู้ไหม รถป๊อปเขาไม่ให้มาวิ่งบนถนน ตนบอกว่าขอสักครั้งหนึ่งได้ไหม ขอรถคืน เขาบอกแต่ว่าไม่ได้ ยึดอย่างเดียว ตนจึงบอกว่าอยากยึดก็ยึดไป จึงถีบรถไปครั้งหนึ่งจนล้มเพราะเป็นทรัพย์สินของตัวเอง จากนั้นเดินกลับไปเอาพลั่วมาทุบรถ เพราะว่าถ้ารถมันขับบนถนนใหญ่ไม่ได้จะเอาไว้ทำไม จากนั้นตำรวจก็ยกรถขึ้นท้ายรถกระบะไป
ต่อมาที่ สภ.คลองข่อย จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมพล วงษ์ศรีสุนทร ผกก.สภ.คลองข่อย เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบว่าภาพที่ปรากฏในคลิปวิดีโอนั้นตนได้เรียกผู้ใต้บังคับบัญชามาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ทราบข้อเท็จจริงคราวๆ ว่าขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรที่บริเวณหน้า ร.ร.นนทบุรีวิทยาลัย ได้มีรถคันเกิดเหตุวิ่งย้อนศรโดยมีผู้ชายขับขี่และมีเด็กนั่งมาด้านหน้า จุดนี้เป็นจุดที่ทางตำรวจให้ความสำคัญเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต ทางเราพยายามทำให้ถูกต้อง เมื่อมีรถขับย้อนศรมาทางเราได้เรียกเพื่อตรวจใบขับขี่ แต่ทางผู้ขับขี่ไม่เข้าใจคิดว่าเรื่องผิดกฎหมายเล็กน้อยน่าจะผ่อนผันได้จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ทางเราได้พยายามทำความเข้าใจกับเจ้าของรถว่าการทำเรื่องผิดกฎหมายทางตำรวจต้องดำเนินคดี บางอย่างเราผ่อนผันได้ บางอย่างทำไม่ได้ และในขณะเกิดเหตุทางเราก็จับผู้ขับขี่ที่ย้อนศรไว้แล้ว 2-3 คัน ทางเราจะเลือกปฏิบัติไม่ได้ ในส่วนที่เขาไม่เข้าใจ อยากกราบเรียนว่าพี่น้องประชาชนที่ได้รับข้อมูลสื่อสารแบบนี้เข้าใจและเห็นใจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย สื่อออกไปแบบนี้อาจทำให้คนเข้าใจผิดและเจ้าหน้าที่ตำรวจท้อ ทางตำรวจอยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุด้วย ทางตนได้กำชับและอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานกับประชาชน ต้องลดเรื่องการกระทบกระทั่ง ต้องมีความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุ และสิ่งที่จะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ลดประสิทธิภาพลง ส่วนรถในเหตุการณ์ (รถป๊อป) เป็นรถที่ทางขนส่งไม่จดทะเบียนให้ ไม่สามารถนำมาวิ่งบนทางหลวงได้ เนื่องจากในเขตทางหลวงมีรถบรรทุก รถใหญ่ที่ใช้ความเร็ว ถ้านำรถที่ทางขนส่งไม่สามารถจดทะเบียนให้มาวิ่งบนทางหลวงจะเกิดอันตรายได้