ข้าราชการขย้ำอกลูกน้องสาวหายหัว ไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามนัด นักข่าวจึงไปหาที่สาธารณสุขอำเภอเมืองนนทบุรี ที่ข้าราชการหื่นคนดังกล่าวถูกย้ายมาช่วยราชการ แต่ก็ไม่พบตัว ผู้บังคับบัญชาเผยก่อนหน้านี้มาทำงานปกติทุกวัน แต่วันนี้ขอลา 1 วัน อ้างไปไกล่เกลี่ยเรื่องราวที่เกิดขึ้น
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตลอดทั้งวันผู้สื่อข่าวเฝ้ารอหลังทราบว่า นายอัศม์เดช รัตนวรประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มภารกิจกองกลางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วชิรนุสรณ์ คำแพง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี หลังจากถูกแจ้งข้อกล่าวหากระทำอนาจารกับ นางโชติกา อู่คงคา ลูกจ้างกลุ่มภารกิจกองกลางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยทางนายอัศม์เดช ได้ติดต่อเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามที่ถูกแจ้งและมีหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน กระทั่งเวลา 16.00 น. ก็ยังไม่มีวี่แววว่า นายอัศม์เดช เดินทางมาที่สภ.เมืองนนทบุรี ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามความคืบหน้า ว่า นายอัศม์เดช เดินทางมาทำงานหรือยัง ตั้งแต่ได้รับคำสั่งให้มาช่วยราชการที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง
โดย นายเจริญชัย เปรมจันทร์วงษ์ สาธารณสุขอำเภอเมืองนนทบุรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือแจ้งมาจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 60 โดยหนังสือแจ้งว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี สั่งการให้ทางหัวหน้าสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ขอให้ส่งตัวนายอัศม์เดช รัตนวรประเสริฐ มาช่วยราชการที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองนนทบุรี โดย นายอัศม์เดช ก็ได้เดินทางมารายงานตัวกับตนในวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา และก็มาทำงานตามปกติทุกวัน สำหรับวันนี้เป็นวันทำงานตามปกติ หลังวันหยุดราชการหลายวัน แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอัศม์เดช ได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่า ขอลาหยุดอีก 1 วัน เพื่อที่จะเดินทางไปไกล่เกลี่ยเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ตนไม่รู้ว่าไปที่ไหน ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยอมรับว่า ทราบข้อมูลจากสื่อเท่านั้น นอกจากนี้ ก็ยังไม่เคยสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวเขา ตนมีหน้าที่ทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
ทั้งนี้มีรายงานว่าทางด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งให้นายนายอัศม์เดช รัตนวรประเสริฐ เข้ารายงานตัวเพื่อทำการสอบวินัยภายในวันศุกร์ 18 ส.ค. ที่จะถึงนี้ และมีกระแสข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้ามาไกล่เกลี่ยเพื่อขอให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความและไม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้น