MGR Online - ชุดสืบสวน บก.น.4 จับแก๊งค้ายาทอม-ดี้ รวม 31 รายการ ภายในซอยลาดพร้าว 73 ได้ผู้ต้องหาเป็นหญิง 2 ราย สารภาพติดต่อลูกค้าวัยรุ่นขี้ยาผ่านแอปพลิเคชัน ก่อนส่งทางพัสดุไปรษณีย์
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.ธีรพรรดิ์ บัณฑิโตหิรัญโชติ รอง ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ท.สุทิน พัฒนา สว.สส.บก.น.4 ร่วมแถลงข่าวจับกุม น.ส.วีรยา หรือ เบญ แสงนคร อายุ 25 ปี ชาว จ.ยะลา น.ส.สุดารัตน์ หรือ พลอย ถอดรูป อายุ 28 ปี ชาว จ.ตราด ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีไวัในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 (อัลปราโซแลม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไว้เพื่อขายซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”
พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) จำนวน 1 ถุง ประมาณ 0.5 กิโลกรัม วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 (อัลปราโซแลม) จำนวน 2,676 เม็ด ยาไอซ์ ประมาณ 7.73 กรัม ยาแก้ไอชนิดน้ำ 794 ขวด ยาแก้ปวดทินดอล สีเขียว-เหลือง จำนวน 10,500 เม็ด และของกลางอื่นจำนวน 31 รายการ ความเสียหายมูลค่า 120,000 บาท สามารถจับกุมได้ที่ตึกบี ดุลิยาพาวิลเลี่ยม ซอยลาดพร้าว 73 (แหลมทอง) ถนนประดิษฐ์มนูธรรม 6 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เวลาประมาณ 20.30 น.
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า น.ส.วีรยา และ น.ส.สุดารัตน์ ทั้งสองเป็นแฟนกัน พักอาศัยอยู่ที่ตึกดังกล่าว ได้มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่าย ยาไอซ์ พืชกระท่อม อัลปราโซแลม และ ยาแก้ไอ ให้กับกลุ่มวัยรุ่น โดยมักจะส่งทางพัสดุไปรษณีย์ และที่ห้องดังกล่าวมักมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดและส่งเสียงดังอยู่เป็นประจำ จึงได้ทำการซุ่มดูติดตามพฤติการณ์
จากนั้นพบ น.ส.วีรยา และ น.ส.สุดารัตน์ ออกมาจากห้องดังกล่าว ลักษณะมีพิรุธน่าสงสัยคล้ายคนติดยา เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและตรวจสอบค้นห้องพบดังกล่าวพบของกลางเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบโทรศัพท์พบข้อมูลการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและยาแผนปัจจุบัน จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าจะติดต่อซื้อขายยา ผ่านทางแอปพลิเคชันต่างๆ โดยเมื่อลูกค้าได้ชำระเงินผ่านทางธนาคารแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสองก็จะนำยาส่งให้ทางพัสดุไปรษณีย์ ซึ่งผู้ต้องหาได้เตรียมชื่อและที่อยู่ปลอมของผู้ฝากส่งไว้เพื่อหลบเลี่ยงการสืบสวนติดตาม