MGR Online - กลุ่มคนเสื้อเดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อรอให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาแถลงปิดคดีด้วยวาจาคดีจำนำข้าวในช่วงเช้าวันนี้
วันนี้( 1 ส.ค.) บรรยากาศที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมารอให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำนวนมาก ศาลจึงมีการดูแลรักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยบริเวณอาคารศาล โดยภายในอาคารศาลจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนกระจายกำลังรักษาการณ์ตามจุดทางเข้าออกอาคารศาล และทางเข้าห้องพิจารณาคดี บุคคลที่จะผ่านเข้าออกเพื่อไปยังห้องพิจารณาคดีจะต้องผ่านจุดเครื่องสแกนตรวจอาวุธด้วย ซึ่งผู้ที่จะเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีนั้นก็จะต้องนำบัตรประชาชน มาแลกบัตรเข้าออกของศาลกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่จุดแลกบัตรบริเวณแผงเหล็กกั้นทางเข้าศาลโดยบัตรนั้นจะมี 2 สี คือ สีเหลืองสำหรับประชาชนทั่วไป และสีเขียวสำหรับสื่อมวลชน โดยห้องพิจารณาคดีของศาลนั้นสามารถรองรับประชาชนที่จะร่วมเข้าฟังได้ประมาณ 100 คน และการจัดสรรที่นั่งสำหรับสื่อมวลชนเบื้องต้นประมาณ 30 คน
ทั้งนี้เมื่อเวลา 08.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาศาลพร้อมทีมทนายความและบุคคลใกล้ชิดเช่นนายวัฒนา เมืองสุข นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำ นปช. ขณะเดียวกันก็มีมวลชนประมาณ 1,000 คน มาให้กำลังใจพร้อมทั้งมอบดอกไม้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง และตำรวจนครบาล 2 ประมาณ 300 นาย
ส่วนด้านนอกมีการนำแผงเหล็กมากั้นเพื่อเป็นช่องทางเข้าออกทางเดียวบริเวณหน้าอาคารศาลด้วย ซึ่งการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ศาล รักษาความปลอดภัยและแผงเหล็กกั้นส่วนนี้เป็นไปตามโมเดลปกติที่เคยมีการจัดไว้ระหว่างการพิจารณาคดี
ขณะที่ตำรวจได้จัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 2 กองร้อย และตำรวจกองร้อยน้ำหวาน อีก 1 กองร้อย ดูแลโดยรอบพื้นที่ และตำรวจได้ยืนยันว่าจะไม่ปิดกั้นมวลชนที่จะมาบริเวณศาล แต่ขอความร่วมมือให้อยู่ในความสงบ ไม่ทำผิดกฎหมาย เนื่องจากมีความกังวลถึงมือที่ 3 ที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ให้เกิดเหตุความวุ่นวายได้ นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งชุดติดตามความเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์หากพบมีการโพสต์ข้อความยุยงปลุกปั่นหรือเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
สำหรับคดีนี้อัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริต ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 กรณีไม่ระงับยับยั้งโครงการจำนำข้าวจนเกิดความเสียหายแก่รัฐ คดีนี้ศาลให้โอกาสคู่ความทั้งสองฝ่ายนำพยานหลักฐานเข้าไต่สวนเพิ่มเติม โดยโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่ม 21 ครั้ง ไต่สวนพยาน 15 ปาก ใช้เวลาไต่สวน 10 นัด
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำเลยยื่นบัญชีเพิ่มเติม 51 ครั้งไต่สวนพยานปาก 30 ปาก ใช้เวลาไต่สวน 16 นัด โดยศาลอนุญาตให้นางสาวยิ่งลักษณ์ จำเลยมาแถลงปิดคดีด้วยวาจาในวันนี้ และอนุญาตให้คู่ความทั้งสองฝ่ายยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ หากไม่ยื่นภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจยื่นคำแถลงปิดคดี และสำหรับคดีนี้ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 25 สิงหาคม เวลา 09.00 น. โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่า การแถลงปิดคดีด้วยวาจานั้นตามกำหนดเริ่มในเวลา 09.30 น.
ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แถลงต่อศาลว่า ขอบคุณองค์คณะผู้พิพากษาที่อนุญาตให้แถลงปิดคดีด้วยตนเองนับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2559 และสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 รวมการไต่สวนของศาลในคดีนี้ทั้งหมด 26 นัด เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือนที่ตนเองไม่เคยขาดนัดพิจารณาคดีของศาลแม้แต่สักครั้งเดียว ทั้งนี้เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา และจะกล่าวเปิดใจอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ได้มีเจตนาอื่นใดหรือใส่ความผู้ใด เพียงต้องการให้การพิพากษาคดีที่ตนถูกกล่าวหาในครั้งนี้เป็นไปโดยถูกต้อง เที่ยงธรรม ตามรัฐธรรมนูญกฎหมาย ภายใต้หลักนิติธรรมที่ตนเองไม่เคยได้รับจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และโจทก์ในคดีนี้มาก่อน
ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงปิดคดีด้วยวาจาเสร็จแล้ว ศาลยังได้วินิจฉัยยกคำร้องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ศาลไม่ส่งประเด็นโต้แย้งข้อกฎหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งศาลระบุว่าเป็นอำนาจของศาลยุติธรรมที่จะวินิจฉัยได้และนัดฟังคำพิพากษาในวัน 25 ส.ค.นี้ ตามกำหนดเดิม