MGR Online - กองปราบปรามรวบพม่ารับจ้างปลอมพาสปอร์ตขายต่างชาติ สารภาพเรียนรู้มาจากแก๊งชาวปากีสถาน ส่งลูกค้าย่านประตูน้ำ ถนนข้าวสาร
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายรายู กุมาร มัทซี หรือจาวาดาลา จายา รายู อายุ 55 ปี สัญชาติพม่า พร้อมของกลางหนังสือเดินทางปลอมจำนวน 6 เล่ม โดยแบ่งเป็นหนังสือเดินทางสัญชาติอินเดีย 4 เล่ม และสัญชาติแคนาดา 2 เล่ม ได้ที่หน้าหอพักสถาพรอพาร์ตเมนต์ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 12 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งว่านายรายูมีพฤติกรรมรับจ้างปลอมแปลงหนังสือเดินทางให้แก่บุคคลต่างด้าว หรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายแต่ต้องการอาศัยอยู่ต่อภายในประเทศไทย โดยการนำรูปถ่ายและข้อมูลของผู้ที่มาว่าจ้างไปดัดแปลงใส่ลงในหนังสือเดินทางของจริงแต่เป็นของบุคคลอื่นซึ่งถูกขโมยมา หรือซื้อต่อมาอีกทอดหนึ่ง โดยคิดราคา 14,000 บาทต่อเล่ม เจ้าหน้าที่จึงจับกุมพร้อมขยายผลตรวจสอบภายในห้องพักของนายรายู พบของกลางดังกล่าวจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายรายูให้การรับสารภาพว่าได้แอบเดินทางเข้ามายังภายในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อปี 2549 ก่อนจะมาแต่งงานอยู่กินกับหญิงสาวชาวไทยจนมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน กระทั่งเมื่อปี 2554 ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุมตัวได้และผลักดันกลับไปยังประเทศบ้านเกิด แต่ด้วยความที่คิดถึงครอบครัวจึงได้แอบเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยอีกครั้งผ่านทางด่านแม่สอด จ.ตาก เมื่อปี 2555 ก่อนจะเริ่มรู้จักกับขบวนการลักลอบปลอมแปลงหนังสือเดินทาง 2-3 กลุ่มใหญ่ ซึ่งเป็นเครือข่ายชาวปากีสถาน จึงผันตัวเองมารับจ้างปลอมแปลงหนังสือเดินทางดังกล่าว โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาติดต่อว่าจ้างจะเป็นชาวอินเดีย หรือชาวต่างด้าวในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในย่านประตูน้ำ ถนนข้าวสาร ส่วนหนังสือเดินทางของจริงที่ตนนำมาใช้ดัดแปลงให้แก่ลูกค้านั้นตนรับมาจากนายจอนนี่ ชาวปากีสถาน ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีไปกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ในราคาเล่มละ 4,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาเป็นผู้ทำหนังสือเดินทางปลอมฯ และมีไว้เพื่อใช้หนังสือเดินทางปลอม และจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งหนังสือเดินทางปลอม, หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป