MGR Online - สมาชิกแก๊ง “ยันหว่าง” สะบักสะบอม ถูกคุมตัวขึ้นศาลมีนบุรี หลังอาละวาดในกรงขังทำลายข้าวของ สน.ตลอดทั้งคืน ถูกแจ้งข้อหาทรัพย์สินราชการเพิ่มอีก ตร.ค้านประกันตัว ยันเจ้าหน้าที่มูลนิธิผู้เสียหายรุมกระทืบเพราะไปหาเรื่องเขา พร้อมรับแจ้งความไว้แล้ว
จากกรณีเหตุวิวาทในปั้มน้ำมันบางจาก ถ.สุขาภิบาล 5 ซ.17 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. โดยมีเด็กปั๊มเข้าห้ามกลุ่มบุคคลกำลังสูบบุหรี่ภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่พอใจกระทั่งลุกลามมาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ที่เข้ามาระงับเหตุจนได้รับบาดเจ็บ และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมผู้ที่ก่อเหตุได้ทั้งหมดจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายโสภณ โกสินทร์ อายุ 36 ปี, นายรัตนเทพ ชัยปราณีเดช อายุ 21 ปี, นายปกรณ์ ชูวงค์ อายุ 24 ปี และนายสิทธิชัย โสลุน อายุ 24 ปี โดยทั้งหมดเป็นสมาชิกของแก๊งยันหว่าง กลุ่มวัยรุ่นที่มักมีการรวมตัวกันในพื้นที่ และเคยก่อเหตุยิงคนตายมาแล้วที่ซอยสายไหม 34 เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ สน.สายไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปฝากขังต่อศาลมีนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวไปสอบสวน โดยกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการสอบปากคำ ก่อนจะนำตัวเข้าห้องขังตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้แสดงอาการโวยวายตลอดทั้งคืนที่อยู่ภายในห้องคุมขัง โดยเฉพาะนายโสภณได้ถีบประตูลูกกรงห้องคุมขังตลอดทั้งคืนจนทำให้ประตูมุ้งลวดได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังทำลายหลอดไฟ ก๊อกน้ำ ฉีกสมุดจดบันทึกการตรวจรายชื่อผู้ตัองขังของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังพูดท้าทาย พ.ต.ต.บดินทร์ ชูเฉลิม สวป.สน.สายไหม ท้าชกต่อยขณะเข้าตรวจตราความเรียบร้อยภายในห้องขังจนเจ้าหน้าที่ต้องแยกขัง
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหาเพื่อจะทำการสอบปากคำ แต่ทางกลุ่มผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใดๆ และไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือตามขั้นตอนของพนักงานสอบสวน จนกระทั่งเวลา 12.30 น. ผู้ต้องหาทั้งหมดยอมให้การต่อพนักงานสอบสวนแล้วและยินยอมพิมพ์มือเพื่อตรวจสอบประวัติ ยอมตรวจหาสารเสพติดทางปัสสาวะแล้วแต่ไม่พบสารเสพติด อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งศาลมีนบุรีในช่วงบ่ายนี้ เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานต่อสู้และขัดขว้างการจับกุมขณะปฏิบัติหน้าที่ ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าพนักงาน ทำให้ทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหาย ปล้นทรัพย์ และแจ้งข้อหาเพิ่มแก่นายโสภณ ในข้อหาเมาสุราหรือมึนเมาสารเสพติดขณะขับรถ
ทั้งนี้ ในการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดทั้ง 4 คนส่งศาล โดยท้ายคำฟ้องทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากหากให้ประกันตัวไปเกรงว่าจะไปข่มขู่พยาน
ทางด้าน พ.ต.อ.ธนกรณ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม เปิดเผยว่า หลังจากที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการสอบปากคำ และไม่ยอมพิมพ์มือ รวมไปถึงทำลายข้าวของทางราชการเสียหาย ประกอบด้วยหลอดไฟส่องสว่างจำนวนหลายหลอด ก๊อกน้ำ โต๊ะ เก้าอี้ที่ใช้สำหรับพิมพ์มือ ได้รับความเสียหาย โดยเราจะแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ ร่วมกันทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย เป็นเหตุให้การส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังที่ศาลเป็นไปด้วยความล่าช้า
ขณะเดียวกัน ส่วนกรณีที่ญาตินายโสภณมาร้องว่าถูกทำร้ายร่างกายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด หลังจากเกิดเหตุและได้นำตัวทั้งหมดมาที่ สน.สายไหม ซึ่งเป็นไปตามคลิปที่ปรากฏ โดยทั้งหมดได้โวยวายหาเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ทหารได้มาและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จากนั้นทั้งหมดได้ลงไปหาเรื่องกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. เวลา17.05 น. ด.ต.ธวัช สายเสมา ตำรวจสายตรวจรับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีเหตุชายทะเลาะวิวาทกันที่ปั้มน้ำมันบางจาก สุขาภิบาล5 แยก7 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เมื่อเข้าไป้จรจาเพื่อระงับเหตุกลับถูกกลุ่มผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้พวกผู้ต้องหาที่ยังได้ร่วมกัน ปล้นทรัพย์เป็นโทรศัพท์ ผู้เสียหายที่ใช้ถ่ายคลิบวิดิโอผู้ต้องหาไว้ ก่อนพากันหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหมจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ไว้แจ้งข้อหาว่า ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางและร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ขณะปฏิบัติหน้าที่โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อให้พ้นการจับกุม นอกจากนี้นายรัตนเทพ ผู้ต้องหาที่ 3 ยังถูกดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ก้าวร้าว ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เกรงว่าจะไปข่มขู่พยานและหลบหนี
ศาลพิจาณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการฝากขังวันนี้ ได้มีญาติผู้ต้องหาบางส่วน มาให้กำลังใจถึงที่ศาล แต่มิได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวตัวผู้ต้องหาแก๊ง "ยันหว่าง" ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี