MGR Online - 4 รุ่นใหญ่เมาป่วนโรงพักสายไหมยังซ่าไม่เลิก อาละวาดข้ามวันข้ามคืน แม้ตำรวจจะพาไปหาหมอกลับด่าทอถึงขั้นจะทำร้ายไม่ให้เข้าใกล้ ขณะที่กระแสโซเชียลฯ เป็นห่วงระบุอารมณ์ความกดดันของประชาชนที่มีกับผู้พิทักษ์สินติราษฎร์จนเกิดเรื่องกระทบกระทั่งกันทุกวัน ทั้งอารยะขัดขืนและถึงขั้นทำผิดกฎหมาย จับตาอันตรายทั้งสองฝ่ายหากควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
กรณีกลุ่มชายฉกรรจ์กล่มใหญ่เมาสุราอาละวาดบนโรงพักสายไหม จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ โดยเหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 5 ก.ค. 2560 เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.สายไหม ที่ผ่านมาเข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาทกันในปั๊มน้ำมันบางจาก ถ.สุขาภิบาล 5 ซอย 17 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ด.ต.ธวัช สายเสมอ ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม พร้อมพวก พบนายโสภณ โกสินทร์ อายุ 36 ปี กับพวกรวม 4 คน ลักษณะคล้ายคนเมาพูดจาเอะอะโวยวาย กำลังยืนโต้เถียงกับคนดูแลปั๊มน้ำมันจึงได้เข้าระงับเหตุ ระหว่างนั้นนายโสภณพยายามจะขับรถกระบะออกไปจากปั๊มน้ำมัน ด.ต.ธวัชเห็นว่าจะเกิดอันตรายจึงเข้าไปดึงกุญแจ แต่ถูกนายโสภณฯชกเข้าที่คิ้วขวา 1 ครั้ง และมีอะไรมากระแทกที่ต้นคอด้านซ้ายจนสลบไป เมื่อฟื้นขึ้นมาพบว่าบัตรข้าราชการและโทรศัพท์หายไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่สกัดจับรถคนดังกล่าวที่ถนนเทพารักษ์ (วัชรพลตัดใหม่) แยกลานกีฬา ถ.รามอินทรา แต่นายโสภณยังไม่หยุดอาละวาดเอาโทรศัพท์ของ ด.ต.ธวัชโยนทิ้งเข้าพงหญ้าข้างทาง ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวนายโสภณกับพวกมาที่ สน.สายไหม แต่นายโสภณกับพวกได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจ และเข้ามาต่อว่าตำรวจบน สน. เตะเก้าอี้แตกได้รับความเสียหาย จนเกิดการชุลมุนกันขึ้นท่ามกลางกำลังตำรวจและทหารกว่า 20 นายที่มาควบคุมสถานการณ์
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายโสภณกับพวกไว้ได้ และแจ้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และลักทรัพย์ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าควบคุมไว้ในห้องควบคุมต่อไป ซึ่งวีดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยเพจแหม่ม โพธิ์ดำ
มีรายงานล่าสุดว่า จนถึงเวลาใกล้เที่ยงของวันที่ 5 ก.ค. ทั้งนายโสภณกับเพื่อนๆ ยังอยู่ไม่ยอมพูดจาดีๆ กับเจ้าหน้าที่ คงตะโกนต่อว่าด่าทอตลอดทั้งคืน และเมื่อตำรวจจะนำตัวไปทำแผลก็ถูกต่อต้าน อาละวาดไม่ให้ความร่วมมือ ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ทั้งในแง่บวกและลบต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าแค่เหตุคนเมาสุราไม่สามารถจัดการได้ แต่บางรายระบุว่าอาจเป็นการต่อต้านตำรวจในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งมีทั้งอยู่ในลักษณะอารยะขัดขืนและทำผิดกฎหมาย สภาพอารมณ์ความนึกคิดของประชาชนที่มีต่อตำรวจในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีการกระทบกระทั่งกันแทบทุกวัน นับเป็นบรรยากาศที่อันตรายและน่าห่วงเป็นอย่างยิ่ง
