MGR Online - “จักรทิพย์” พร้อมทบทวนบทเรียนการปราบปรามการค้ามนุษย์ เรียกทุกหน่วยวางมาตรการใหม่ ตั้งเป้ายกระดับขึ้นจัดอันดับเทียร์ 1 ให้ได้ พร้อมให้อิสระจเรฯ ขยายสอบซื้อขายเก้าอี้ในพื้นที่ บช.ภ.8 อีก 30 วัน เพื่อตอบสังคมให้ได้
วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวก่อนการประชุมบริหาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกายังคงจัดอันดับสถานการณ์การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยให้คงที่อยู่ที่อันดับ 2 และต้องจับตามอง หรือเทียร์ 2 วอตช์ลิสต์ เท่ากับผลการประเมินเมื่อปีที่ผ่านมาว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจในการแก้ปัญหา ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ปีที่ผ่านมาดำเนินการแกปัญหาเต็มที่ทุกมิติ ในส่วนการปราบรามตำรวจก็จับกุมดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐทั้งทหารและตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องทำผิดอย่างต่อเนื่อง ต้องถามว่ามุมมองของผู้ประเมินเป็นอย่างไร มุมของผู้ถูกประเมินได้ทำอย่างเต็มที่ จริงใจในการแก้ปัญหา ที่ทางสหรัฐฯ ชี้ว่าต้องปรับปรุง ออกกฎหมาย แก้กฎหมายหลายอย่างแล้ว แต่ก็อยู่ที่ผู้ประเมินด้วยว่ามองเห็นอะไร อย่างไร
ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ในส่วนของ ตร.มี พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ 10) และ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี กำกับดูแลการแก้ปัญหาในภาพรวม แต่เมื่อผลการะประเมินออกมาแบบนี้ ในส่วนของ ตร.ต้องกลับมาทบทวนสรุปบทเรียนการทำงานในปีที่ผ่านมาว่าขาดตกบกพร่องตรงไหนบ้างก็ต้องเติมเต็มในส่วนนั้น อาจต้องเรียกหน่วยที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบมาคิดมาออกมาตรการกันใหม่เพื่อแก้ปัญหาให้ได้ ผลที่ออกมาอยู่อันดับเทียร์ 2 เหมือนเดิมถือว่าดีแล้ว ยังดีกว่าตกอันดับไปที่เทียร์ 3 ทั้งนี้วางเป้าหมายว่าต้องขยับอันดับไปสู่เทียร์ 1 ให้ได้
พล.ต.อ.จักรทิพย์ยังกล่าวถึงสำหรับการปฏิรูปองค์กรตำรวจที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งขณะนี้ผ่านมาแล้ว 3 เดือนว่า เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการปฏิรูปแล้วเสร็จทันเวลา หากไม่ทันก็ขออนุมัติ ครม. จะขับเคลื่อนไปตามโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้ และแม้ว่าระหว่างการปฏิรูปตำรวจจะเกิดรอยต่อระหว่างรัฐบาล คสช.กับรัฐบาลในอนาคตก็ยืนยันว่าจะไม่มีช่องว่างในการแทรกแซงการทำงานด้านปฏิรูปตำรวจ เพราะการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมีการตั้งกรรมการตามมาตรา 260 อยู่แล้ว ตนเป็นหนึ่งในกรรมการและได้เสนอผู้เหมาะสมเข้าเป็นกรรมการด้วย แต่ไม่ขอเปิดเผย
สำหรับความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส.ออกมาเปิดเผยข้อมูล กล่าวหาเการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้รับหนังสือขอยายเวลาการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก 15 วัน ออกไปอีก 30 วันนั้น รับทราบจาก พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติแล้ว เพื่อให้สืบสวนสอบสวนหมดข้อสงสัย มีความชัดเจนมากที่สุด โดยได้เร่งรัดให้ดำเนินการเป็นไปอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 ช่วยราชการ ศปก.ตร. หลังมีคำสั่งย้ายพ้นหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และยังไม่มีความจำเป็นในการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งในพื้นที่อื่น ยังคงตรวจสอบในพื้นที่ บช.ภ.8 เท่านั้น โดยให้ พล.ต.อ.ปัญญาไปดำเนินการตรวจสอบทุกประเด็นอย่างเต็มที่ ตนไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงอะไร ส่วนกรณีที่นายวิทยา ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าพบการซื้อขายใน บช.อื่น ผบ.ตร.กล่าวว่า จะไม่ตอบโต้ ให้เป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.ปัญญา ในการตรวจสอบข้อมูล