xs
xsm
sm
md
lg

ชุดพญาเสือร้องเอาผิดวังช้างชื่อดังอยุธยา ทำผิดเงื่อนไขนำช้างไทยออกนอกราชอาณาจักร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือพญาเสือ ร้องดีเอสไอช่วยตามช้างไทยกลับบ้าน กรณีวังช้างชื่อดังในอยุธยาขออนุญาตนำช้าง 5 เชือกไปแสดงที่สวนสัตว์โคโลญ แล้วหายสาบสูญเป็นเวลา 11 ปี เชื่อว่าเป็นการลักลอบนำเอาน้ำเชื้อจากช้างไทยไปผสมเทียม

วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อดำเนินการติดตามช้างไทยกลับมาประเทศไทยและเอาผิดกรณีสวมตั๋วรูปพรรณช้าง โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอเป็นผู้รับเรื่อง

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อปี 2549 วังช้างชื่อดังที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาทำเรื่องขออนุญาตกรมอุทยานฯ นำช้าง 5 เชือกออกจากราชอาณาจักรชั่วคราวเพื่อไปแสดงที่สวนสัตว์โคโลญจ์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยจ่ายหลักทรัพย์ค้ำประกันจำนวน 6 ล้านบาท แต่เมื่อครบกำหนดสัญญากลับไม่นำช้างคืนมายังประเทศไทย และขณะนี้ล่วงเลยมาเป็นเวลา 11 ปี

นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าช้าง 5 เชือกเป็นตัวเมียทั้งหมด มีการตกลูก 3 ตัว และไม่มีการแจ้งต่อกรมอุทยานฯ ให้ทราบเป็นการทำผิดสัญญาเงื่อนไข เชื่อว่าเป็นการลักลอบนำเอาน้ำเชื้อจากช้างไทยภายในประเทศไปผสมเทียม ผิดตามอนุสัญญาไซเตส การลักลอบนำเข้า-ส่งออกสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และยังปลอมแปลงเอกสารเท็จ “สวมตั๋วรูปพรรณช้าง” จากช้างป่าเป็นช้างบ้าน โดยมีผลยืนยันชัดเจนว่าดีเอ็นเอช้างไม่ตรงกัน

“ทางกรมอุทยานฯ จึงขอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเนื่องจากบางประเด็นนั้นเกินอำนาจการสอบสวนของกรมอุทยานฯ และเชื่อว่าการนำช้างไทยไปต่างประเทศและลักลอบนำน้ำเชื้อไปผสมเทียมจนตกลูกมาอีกหลายเชือกเป็นธุรกิจที่ทำกันเป็นขบวนการ โดยมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง” นายชัยวัฒน์กล่าว

เบื้องต้นดีเอสไอรับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบและมอบหมายสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการก่อนเสนออธิบดีดีเอสไอตามขั้นตอน
กำลังโหลดความคิดเห็น