MGR Online - ตำรวจโชคชัย ร่วมกับฝ่ายสืบสวนนครบาล 4 ตามรวบ รปภ. อพาร์เมนต์ย่านลาดพร้าว มือมีดจ้วงแทงหนุ่มดับ รับสารภาพโดนหาเรื่องก่อน ขนาดหนีแล้วยังตามทำร้าย ก่อนตัดสินใจคว้ามีดพกแทง หลังก่อเหตุหนีไปกบดานบ้านญาติที่ต่างจังหวัด
วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ สน.โชคชัย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อมด้วยพ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.อ.อมรชัย ปัญญา ผกก.5 บก.รฟ. พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ต.อภิโชค ขนบดี สว.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ต.กอบศักดิ์ โพธิ์วารี สว.สส.สน.โชคชัย และ เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.รฟ. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายทนงศักดิ์ หรือ เก่ง ประกาย อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 1 ต.บ้านขอ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1413/2560 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2560 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลางอาวุธมีดปลายแหลม ขนาความยาว 9 นิ้ว และชุดในวันก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณขบวนรถไฟขบวนรถดีเซลรางที่ 71 (กรุงเทพ-อุบลราชธานี) ขณะขบวนหยุดที่สถานีรถไฟนครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.20 น. ของวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุคนร้ายแทง นายชยานนท์ แดงเลิศ อายุ 31 ปี เสียชีวิตเหตุเกิดบริเวณตึกเอบีซี อพาร์ทเมนต์ ซอยลาดพร้าว 95 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. จากนั้นจึงประสานทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ และใกล้เคียง รวมทั้งสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์จนทราบข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ นายชยานนท์ และ นายทนงศักดิ์ ซึ่งประกอบอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กัน ต่างฝ่ายต่างดื่มสุรา จนมีอาการมึนเมาทั้งคู่ ก่อนมาเจอกันและเกิดมีปากเสียงถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกัน จากนั้น นายทนงศักดิ์ ได้เดินหนีกลับบ้านพักบริเวณท้ายซอยดังกล่าว แต่ นายชยานนท์ ไม่ยินยอมก่อนทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดปลายแหลมที่พกติดตัวเอาไว้จ้วงแทงนายชยานนท์จนถึงแก่ความตาย ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวต่อว่า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าคนร้ายได้เดินทางหลบหนีไปหามารดาที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งโดยสารรถไฟ จึงประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ สถานีตำรวจรถไฟนครราชสีมา กก.5 บก.รฟ. ให้ช่วยสกัดจับตัวคนร้าย จนกระทั่งพบตัวภายในขบวนรถไฟขบวนรถดีเซลรางที่ 71 (กรุงเทพ-อุบลราชธานี) ขณะขบวนหยุดที่สถานีรถไฟนครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ไล่ล่าตัวคนร้ายตั้งแต่ภายหลังเกิดเหตุ ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจแม้แต่อย่างใด และทำงานกันอย่างหนัก จึงใช้เวลาเพียงแค่ 14 ชั่วโมง จนสามารถควบคุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ก่อนนำมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.โชคชัย
ด้าน นายทนงศักดิ์ รับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งตนและผู้เสียชีวิตไม่เคยมีเรื่องบาดหมางและรู้จักกันมาก่อน โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนั่งดื่มสุราอยู่กับกลุ่มเพื่อนหลังจากเลิกงาน จู่ๆ นายชยานนท์ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาสุราได้เดินปรี่เข้ามาหาตน พร้อมทั้งพูดว่า “อยากมีเรื่องหรอ” ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบโต้หรือสนใจแม้แต่อย่างใด จากนั้นผู้เสียชีวิตได้เดินไปห้องพัก และกลับมาหาอีก พร้อมพูดเหมือนเดิมอีกครั้ง โดยตนได้เดินเลี่ยงไปที่ป้อมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ใกล้กัน แต่นายชยานนท์ กลับเดินตามมาก่อนใช้เท้าเตะตนถึง 4 ครั้ง ซึ่งผู้ที่เห็นเหตุการณ์ยังช่วยกันห้ามปรามแต่ผู้เสียชีวิตยังไม่ยอมหยุด โดยครั้งนี้ตนไม่แน่ใจแล้วว่าจะพกอาวุธมาด้วยหรือไม่ เนื่องจากตั้งใจจะมาหาเรื่อง จึงตัดสินใจใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวไว้ขณะปฏิบัติหน้าที่จ้วงแทงนายชยานนท์ ไป 1 ครั้ง ก่อนผู้ตายได้วิ่งหนีไป ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ในอาการมึนเมาสุราด้วยเช่นกัน จนเกิดบันดาลโทสะวิ่งไล่ตามไปจ้วงแทงอีกประมาณ 5 แห่ง จนนายชยานนท์ นอนแน่นิ่งและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จนกระทั่งตนมาถูกทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป