xs
xsm
sm
md
lg

“ตาลุง” ทหารวัยเกษียณ ยิงเจาะหัวหนุ่มรถตู้ดับ คาดปมชู้สาวติดพันภรรยาของผู้ตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
MGR Online - ทหารวัยเกษียณปืนโหด ทะเลาะหนุ่มอาชีพขับรถตู้รับจ้าง ก่อนชักปืนยิงศีรษะ 2 นัด ชายโครง 1 นัด เสียชีวิตภายในซอยประดิพัทธ์ 21 เชื่อชนวนชู้สาว ชาวบ้านเผยคนร้ายติดพันภรรยาของผู้ตาย ชอบแอบถ่ายภาพภรรยาของผู้เสียชีวิต

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. ร.ต.อ.พิเชฏฐ์ ชาตะโชติ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 23 ซ.ประดิพัทธ์ 21 ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 พ.ต.ท.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ รรท.ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.พิชิต กอปรกิจงาม รอง ผกก.สส.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.ปริญญา กลิ่นเกษร รองผกก.ป.สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๋ง

ที่เกิดเหตุเข้ามาภายใน ซ.ประดิพัทธ์ ประมาณ 100 เมตร พบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีเทา ทะเบียน ฮท 1902 กรุงเทพมหานคร ภายในรถบริเวณเบาะด้านหลังคนขับฝั่งซ้ายข้างประตูพบผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสทราบชื่อต่อมา คือ นายสุพจน์ แม้นรำ อายุ 30 ปี อาชีพขับรถตู้รับจ้างทั่วไป ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณศีรษะ จำนวน 2 นัด ชายโครงซ้าย 1 นัด สภาพสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เลือดไหลนองเต็มพื้นรถ อาสาสมัครมูลนิธิเร่งกู้ชีพแต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายเป็นชายไทย มาเพียงคนเดียว ก่อนก่อเหตุได้มีการพูดคุยและทะเลาะกับผู้ตาย ก่อนใช้อาวุธปืนยิงแล้วหลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง นอกจากนี้ สอบสวนพยาน (ขอสงวนชื่อ) ทราบว่า ผู้ก่อเหตุชาวบ้านบริเวณดังกล่าวมักจะเรียกชื่อว่า “ตาลุง” ซึ่งจะชอบมานั่งดื่มสุราบริเวณดังกล่าวอยู่เป็นประจำ และติดพันภรรยาของผู้ตาย โดยจะชอบแอบถ่ายภาพภรรยาของผู้เสียชีวิต จึงเชื่อว่าสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุไม่ได้พักอาศัยอยู่บริเวณนี้ ทราบเพียงว่าเป็นอดีตทหารที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว

ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ขอรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุไว้ก่อน โดยได้ตั้งประเด็นไว้ คือ เกิดจากปัญหาส่วนตัว ทั้งนี้ คนร้ายประสงค์ต่อชีวิต อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม คนร้ายมาเพียงคนเดียว คดีนี้ไม่ยากเกินไป 1 - 2 วัน น่าจะรู้เรื่อง ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน หากเปิดเผยรายละเอียดไปอาจส่งผลกระทบต่อรูปคดีได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ และพยานแวดล้อม รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณรอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น