MGR Online - ผบช.น.แถลงผลจับอดีตพนักงานเวรเปล รพ.ราชวิถี ฟันคอ รปภ. โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเหตุมีปากเสียงเรื่องที่จอดรถ หลังก่อเหตุขับรถหลบหนีไปจอดทิ้งไว้ภายในลานจอดรถบ้านเอื้ออาทร ก่อนหลบหนีไปอยู่บ้านญาติเมืองกรุงเก่าจนถูกจับกุม ตร.ค้านประกันตัว
วันนี้ (13 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. ที่ สน.พญาไท พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผบก.น.1 พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายภัทรพงศ์ หรือต้อย เครือนาค อายุ 28 ปี อดีตพนักงานเวรเปล รพ.ราชวิถี ประจำสถาบันโรคผิวหนัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1374/60 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2560 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธ (มีด) ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า นายภัทรพงศ์ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันคอนายสัญชาย วันงาม อายุ 30 ปี รปภ.โรงพยาบาลราชวิถี เสียชีวิต ส่วนสาเหตุเพราะมีปากเสียงปมเรื่องที่จอดรถ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสืบสวนแกะรอยไปจนพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของนายภัทรพงศ์ที่ขับไปจอดทิ้งไว้ภายในลานจอดรถโครงการบ้านเอื้ออาทร รังสิตคลอง 1 ตึก 17 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากการตรวจค้นภายในรถพบแผ่นป้ายทะเบียน สล 6516 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น ที่ถูกถอดไว้ซุกซ่อนอยู่ใต้ผ้ายางรองพื้นซึ่งรถคันดังกล่าวเป็นคันเดียวกับขับไปในวันก่อเหตุ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบว่านายภัทรพงศ์ได้หลบหนีไปอยู่บ้านญาติใน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่นายภัทรพงศ์ได้ติดต่อประสานขอเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจรถ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จากการสอบสวนผู้ต้องหายังไม่ให้การใดๆ และขอให้การในภายหลัง แต่ยอมรับว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยก่อนหน้านั้นได้มีปากเสียงกับผู้ตายเรื่องที่จอดรถ ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุผู้ต้องหาให้การว่าทิ้งไว้ในรถยนต์ที่ใช้ขับหลบหนี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และปฏิเสธจะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้เข้าตรวจสอบพร้อมเก็บรวบรวมพยานหลักฐานภายในรถยนต์ดังกล่าวที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนี โดยจากตรวจสอบพบอาวุธมีดปลายแหลม ความยาวเกือบ 20 นิ้ว ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะหน้าด้านข้างของคนขับ คาดว่าเป็นมีดที่ใช้ก่อเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะนำมีดดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง
