MGR Online - พบศพหญิงสูงวัยอายุ 75 ปี ถูกฆ่าฝังดินข้างบ้านเช่าใน จ.สมุทรปราการ คาดสามีวัย 53 เป็นคนลงมือ พยานระบุ ขณะมีชีวิตพฤติกรรมมักทำร้ายร่างกายเป็นประจำผู้ตายเป็นประจำ หลานชายเผย เดินตามหาทั่วบ้านไม่พบ จนต้องจุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กลิ่นศพโชยมาทันทีจนพบร่าง
วันนี้ (13 มิ.ย.) เมื่อเวลา 18.00 น. ร.ต.อ.รัฐพงษ์ ศรีนอก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งพบศพหญิงถูกฝัง อยูข้างบ้านเช่าหลังหนึ่งไม่มีเลขที่ ภายในซอยอยู่สุข 13 ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ชุดสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน อาสามูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสภาพโทรม รั้วรอบสังกะสี โดยมีชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงกันไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากไปจากบริเวณหน้าบ้าน ต่อมาได้เข้าตรวจสอบบริเวณซอกข้างบ้านฝั่งขวา พบหลุมลึกประมาณ 1 ศอก โดยในหลุ่มพบศพเพศหญิง ทราบชื่อต่อมาคือนางสุรัก อุ้มรัก อายุ 75 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างขึ้นมาตรวจสอบ
สอบถาม นางพัชลี แก้วน้อย อายุ 58 ปี กำนันตำบลบางเมือง กล่าวว่า ผู้ตายป่วยเป็นโรคอ่อนแรง โดยพักอยู่กับ สามี ชื่อนายหนู อายุ ประมาณ 53 ปี ระหว่างอยู่ด้วยกันนายหนู ชอบทำร้าย ผู้ตาย จนชาวบ้านมาแจ้งตนเข้ามาดูหลายครั้ง ซึ่งตนก็ห้ามปราม จนวันนี้มีคนมาแจ้งตนว่าผู้ตายเงียบไปหลายวัน และมีคนได้กลิ่นคล้ายศพ ตนจึงได้มาดู แต่ไม่มีคนอยู่ กระทั่งหลานผู้ตายเดินทางมาและได้ลงมือขุดหลุม จนเจอร่างของผู้ตายถูกฝังอยู่ข้างบ้าน
ทางด้าน นายเอกรัตน์ เที่ยงพาณิชย์ อายุ 17 ปี หลานชายผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนพบศพ พระเอก อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นโยมพ่อ ขณะนี้บวชอยู่โคราช ได้โทรมาบอกว่าย่าโดนซ้อม และถูกน้ำร้อนลวก เนื่องจากชาวบ้านไปบอก โดยปู่เป็นคนลงมือ จากนั้นตนจึงได้รีบเดินทางมา แต่ก็ไม่พบย่า จากนั้นได้มีชาวบ้านมาบอกตนว่าลองจุดธูปบอกสิ่งศักสิทธิ์ดู เพื่อบันดาลใจให้พบ หลังจากจุดธูปเสร็จ จู่ ๆ ก็ได้กลิ่นเหม็นโชยขึ้นมา จากนั้นตนจึงได้เดินตามกลิ่นไป จนไปเหยียบแผนไม้ข้างบ้าน ก่อนที่ดินจะยุบลงไป ตนจึงได้เปิดแผนไม้ออกและเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันขุด จนพบร่างของย่า จึงได้รีบวิ่งออกมา ขอความช่วยเหลือ และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
เบื้องต้นผู้ต้อสงสัยคาดว่าสามีผู้ตายน่าจะเป็นคนลงมือก่อเหตุ เนื่องจากได้หายตัวออกจากบ้านไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมามาสอบสวนต่อไป