MGR Online - ทหาร มทบ.11 คุมตัวผู้ต้องหาขบวนการส่งวัตถุระเบิดผ่านทางไปรษณีย์ ทั้งหมด 17 คน ทหาร 7 พลเรือน 10 มอบให้กองปราบฯ เผยผลสอบยันทหารส่งระเบิดทางไปรษณีย์ไม่เกี่ยวกับหน่วยงาน เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับโจรใต้ รับซื้อขายอาวุธผ่านทางเฟซบุ๊กและกลุ่มไลน์
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.11 ควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีขโมยระเบิดและเครื่องกระสุนจากคลังอาวุธของกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ ก่อนนำมาขายผ่านทางเฟซบุ๊กและไลน์ มาส่งมอบให้ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. หลังถูกคุมตัวครบ 7 วัน ทั้งนี้ เมื่อวานที่ผ่านมาศาลทหารและศาลอาญาได้ออกหมายทั้งหมด 17 ราย โดยผู้ต้องหาที่ครบกำหนดการคุมตัวตามมาตรา 44 ถูกควบคุมลงมาจากรถตู้ของเจ้าหน้าที่ทหาร ก่อนที่จะนำตัวไปให้แพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจทำการตรวจร่างกายแล้วนำมาพิมพ์ลายนิ้วมือพร้อมถ่ายรูปทำประวัติตามขั้นตอนในการรับมอบตัว จากนั้นก็ให้ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามสอบปากคำ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทหารได้นำของกลางในคดี เช่น ระเบิด ปืนยาว และเครื่องคอมพิวเตอร์ มามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบสำนวนคดี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบกล่องพัสดุต้องสงสัยที่บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส สาขาบางเขน หลังได้รับแจ้งว่ามีระเบิดรุ่นเอ็ม 67 จำนวน 4 ลูก สภาพพร้อมใช้งานบรรจุในกล่องดังกล่าว หลังเกิดเหตุนายทหารพระธรรมนูญได้เดินทางมาแจ้งความต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้จำหน่าย ผู้จัดหา รวมถึงผู้สั่งซื้อในกระบวนการทั้งหมด ในข้อหามีอาวุธปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้โดยผิดกฎหมาย นำไปสู่การออกหมายจับ 12 ราย เป็นทหาร 7 นาย และพลเรือน 5 ราย ประกอบด้วย ร.ท.สันติ นามวิเศษ, จ.ส.อ.ประดิพัทธ์ เสน่ห์ดี, จ.ส.อ.ฉัตรชัย เอี่ยมสมบูรณ์, จ.ส.อ.พลหงส์ศาสตร์ (ไม่ทราบนามสกุล), จ.ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์, ส.อ.สุทธิโชค ไพเราะ, พลทหาร สกลนที พรหมทอง, นายเกษมสุข นามศรี, นายสิทธิชัย ทองเชื้อ, นายณัฐพล อยู่ยืด, นายณัฐพงศ์ ทองคำพันธุ์ และนายศักดิ์สิทธิ์ จันทาป
พ.ต.อ.สันติกล่าวภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมงว่า จากการสอบสวนกลุ่มผู้จำหน่ายให้การรับสารภาพว่าได้เปิดเพจกลุ่มในเฟซบุ๊กในลักษณะกลุ่มปิด และกลุ่มในแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อโชว์อาวุธดังกล่าว เมื่อมีลูกค้าอินบอกซ์ขอซื้อลูกระเบิดและอาวุธต่างๆ ก็จะประสานกับกลุ่มผู้ต้องหาคนอื่นๆ เพื่อให้จัดหาวัตถุระเบิด ก่อนนำไปขายแล้วส่งให้ลูกค้า อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนพบว่ากลุ่มพวกนี้ได้นำอาวุธสงครามไปโพสต์โชว์เท่านั้น ยังไม่พบว่านำไปใช้ในการก่อเหตุความรุนแรงหรือเชื่อมโยงกับเหตุความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ หรือกลุ่มผู้ค้าอาวุธตามแนวชายแดนแต่อย่างใด หากพบความเชื่อมโยงรวมทั้งปรากฏหลักฐานไปที่บุคคลใดก็จะดำเนินการถึงที่สุด
ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น เบื้องต้นได้แจงข้อหาผู้ต้องหา 3 ส่วน โดยส่วนแรกแจ้งข้อหาผู้จัดหาวัตถุระเบิด คือ จ.ส.อ.ฉัตรชัย เอี่ยมสมบูรณ์ ในฐานความผิดตามมาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย, ความผิดตามมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต, ครอบครองและจำหน่ายอาวุธสงคราม
ในส่วนของ จ.ส.อ.ประดิพัทธ์ เสน่ห์ดี และ จ.ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ ในฐานะผู้จำหน่ายวัตถุระเบิดได้แจ้งข้อหาในฐานความผิดร่วมกันสนับสนุนตาม ม.147 และ 157 รวมทั้งในฐานความผิดร่วมกันครองครองและจำหน่ายอาวุธสงคราม ในส่วนของผู้ต้องหาที่เหลือซึ่งร่วมกระทำความผิดในฐานะกลุ่มผู้ซื้อ ได้แจ้งข้อหาในฐานความผิด ซื้อและครอบครองอาวุธสงคราม อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 17 คน เป็นพลเรือน 10 คน ทหาร 7 นาย จับกุมได้ทั้งหมดแล้ว ประกอบด้วย ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ ,จ.ส.อ.ฉัตรชัย เอี่ยมสมบูรณ์, จ.ส.อ.ประดิพัทธ์ เสน่ห์ดี, ร.ท.สันติ นามวิเศษ, ส.อ.สุทธิโชค ไพเราะ, พลทหาร สกลนที พรหมทอง, นายสิทธิชัย ทองเชื้อ, นายเกษมสุข นามศรี, นายณัฐพล อยู่ยืด, นายณัฐพงศ์ ทองคำพันธุ์, นายศักดิ์สิทธิ์ จันทาป และนายวิษณุ จันทร์เพ็ญ และขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางมายังกองปราบปรามอีก 2 ราย คือ นายประชิดชัย สุดสกุล และ ส.ต.ต.กฤตภาส ยิ้มละมัย
ส่วนนายอิสระ อินทร์จันทร์ ถูกดำเนินคดีในพื้นที่ สภ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, นายนเรนทร์ฤทธิ์ ทองสีทอง ถูกดำเนินคดีที่ สภ.บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ จ.ส.อ.พลหงษ์ศาสน์ เสนาวงษ์ ถูกดำเนินคดีที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งทั้ง 3 คนนี้ตำรวจกองปราบปรามจะไปอายัดตัวเพื่อดำเนินคดี โดยจะควบคุมตัวผู้ต้องหาขออำนาจศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังในพรุ่งนี้